บทความ

เรื่องผีที่พิจิตร

รูปภาพ
1. เรื่อง   หลอนกันทั้งหมู่บ้าน - คุณผอม                 เรื่องนี้เกิดขึ้นที่พิจิตร รุ่นพี่ของผอมชื่อหญิงอายุประมาณ 30 แต่เป็นสาวโสด แต่เป็นคนสวยก็มีคนมาจีบเยอะ แต่หญิงไม่ได้ชอบใคร จนวันหนึ่งมีเกษตรอำเภอมาพักที่บ้าน (พ่อของหญิงเป็นกำนัน) เพื่อมาดูที่ทางทำฝาย หญิงกับเกษตรอำเภอก็ชอบคอกันและคบหากัน และตกลงจะแต่งงานกัน ก่อนแต่งงานเดือนนึง มีผู้ชายที่ชอบหญิงมาแวะเวียนที่หน้าบ้าน แล้วหญิงก็ลงไปคุยด้วยสักพัก พอ 2 ทุ่ม หญิงก็คว้าจักรยาน แม่ก็ถามว่าจะไปไหน หญิงก็บอกว่าจะไปหาเพื่อนที่ท่าข้าม ซึ่งอยู่ห่างไปอีกกิโล หลังจากคืนนั้นหญิงก็หายไปเลย แล้วก็พากันออกตามหา หายังไงก็ไม่เจอ จึงไปหาร่างทรง ร่างทรงก็บอกให้กลับไปหาใหม่ ที่ป่าไผ่ ทุกคนก็กลับไปหาที่ป่าไผ่ จนลึกลงไปเจอรองเท้าก็เดินตามไป เจอศพของหญิงซึ่งท่อนบนเปลือย ท่อนร่างใส่ผ้าถุงอยู่ ท้องถูกผ่า และไส้ก็ห้อยตามกิ่งไม้ และที่หน้าผากมีรอยกีดลึกถึงกระโหลกเป็นรูปกากบาท ชาวบ้านจึงพากันเอากระสอบห่อศพออกมา ตำรวจชันสูตรว่าไม่พบการถูกข่มขืน วันเวลาผ่านไป ตาท้อนคนแก่ไปหากบหาเขียด ผ่านป่าไผ่ แกก็ได้ยินเสียงผู้หญิงเรียก น้าท้อนๆ น้าท้อน

เรื่องผีที่จันทบุรี

รูปภาพ
1 เรี่อง ชายปริศนากลางถนน เรื่องนี้เป็นเรื่องสั้นๆ ที่ส่งเข้ามาจากคุณมานิตย์ครับ คุณมานิตย์เล่าว่า.. เหตุการณ์นี้เป็นเหตุการณ์แรก และเหตุการณ์เดียวที่เกิดขึ้นจริงกับตัวผมเองครับ บ้านผมอยู่อำเภอขลุง จังหวัดจันทบุรี ทำธุรกิจส่วนตัวที่บ้านกับพ่อผม ส่วนแม่จะออกไปทำงานที่อำเภอมะขาม ระยะทางห่างจากบ้านประมาณ 60 กิโลเมตร ทุกๆ วันเสาร์ ผมจะต้องออกไปรับแม่กลับมาบ้านมาที่อำเภอขลุงครับ มีอยู่วันหนึ่ง เป็นวันที่แม่ผมเลิกงานมืด กว่าจะเริ่มออกเดินทางก็ทุ่มกว่าๆ ถนนหนทางเป็นทางหลวง 4 เลนขับสบายๆ ระหว่างทางผมก็คุยกับแม่ตามปกติ พอมาถึงช่วงหนึ่งที่ 2 ข้างทางมีต้นกบกใหญ่ บ้านคนแต่ละหลังอยู่ค่อนข้างห่างกัน ผมขับรถชิดขวาตลอดเพราะถนนโล่ง ทันใดนั้นเอง แสงไฟหน้ารถผมก็สาดไปเจอคน น่าจะกำลังยืนอยู่ตรงเกาะกลางถนน ลักษณะคือคลุมผ้าห่ม (ผ้านวมสีขาวมอๆ) คลุมตั้งแต่หัวจนถึงข้อเท้า รองเท้าไม่ใส่ แล้วเอามือรวบจับผ้าห่มบริเวณคอไว้ เขายืนนิ่งๆ เหมือนรอข้ามถนน ในใจผมก็คิดว่าคงเป็นชาวบ้านแถวนั้นแหละ.. พอรถผมวิ่งจนเกือบจะถึงคนคนนั้น อยู่ๆ เขาก็วิ่งออกมากลางถนน ตอนนั้นผมเหยียบเบรคเต็มที่ พร้อมกับบีบแตรค

เรื่องผีที่แม่ฮ่องสอน

รูปภาพ
1. เรื่อง ค้างคืนที่แฟลตทหาร เรื่องนี้ส่งเข้ามาจากคุณญาครับ คุณญาเล่าว่า.. ย้อนกลับไปหลายปี ตอนนั้นเราเป็นนักศึกษาค่ะ พี่ชายเราเป็นหมอทหารอยู่ที่ปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน ในค่ายทหารนั้นจะมีแฟลตนายทหารอยู่ คนที่เคยอยู่แฟลตนายทหารจะรู้ดี ว่าส่วนใหญ่ห้องจะว่าง นายทหารที่มีครอบครัวก็เลือกที่จะอยู่บ้านพักกันมากกว่า ทำให้แฟลตนายทหารจะเงียบมากๆ.. ครั้งหนึ่งเราเองก็เคยได้ไปพักอยู่แฟลตนายทหารที่จังหวัดเพชรบูรณ์มา ชั้น 1 มี 10 ห้อง อยู่กันจริงๆ แค่ 4 ห้องได้ ไฟในชั้นก็ไม่ค่อยจะติด ยิ่งชั้น 3 ชั้น 4 นี่ไม่ต้องพูดถึง ไม่มีคนอยู่เลยค่ะ  แต่แฟลตนายทหารของพี่ชายที่ปาย เราเพิ่งได้ไปเป็นครั้งแรกค่ะ ช่วงวันหยุดพี่ชายกลับบ้านมา และขากลับก็พาเราไปด้วย เพราะตอนนั้นเราอยากไปเที่ยวปายค่ะ.. พอไปถึง ถ้าจำไม่ผิดห้องจะอยู่ชั้น 2 สภาพคือเลวร้ายกว่าที่คิดไว้มาก ลูกบิดประตูเป็นสนิมเขรอะ เปิดประตูเข้าไป พื้นห้องเต็มไปด้วยฝุ่น เพดานมีแต่หยากไย่ ห้องน้ำเกรอะกรังด้วยสนิมสีแดงเข้ม เปิดน้ำมาพื้นก็กระจายเป็นวงขาวๆ อารมณ์เหมือนอยู่บ้านร้างในหนังเลยค่ะ เรากับพี่ชายที่เหนื่อยจาการเดินทางมามาก ก็เลยไม่ได้

เรื่องผีที่พัทลุง

1. เรื่อง แค้นของมโนราห์ * หมายเหตุ   เรื่องเล่านี้   เต็มไปด้วยศัพท์ใต้   ใครที่ไม่ค่อยเข้าใจ   กรุณาปล่อยผ่าน   และเรื่องนี้ "มิใช่ผลงานของเรา" เป็นเรื่องเล่าของเพื่อนเรา   ที่เล่าลงในกลุ่มเฟสผีๆพันทิป   "ห้ามก๊อปไปทำเครดิตเป็นของตัวเองเด็ดขาด" ทั้งนี้กระทู้นี้   เราได้รับอนุญาตโดยตรงจากเจ้าของเรื่องให้เก็บมาลงไว้   เนื่องจากเป็นเรื่องราวของชาวปักษ์ใต้ค่ะ* แตร๊ด แตรด แตร่ๆๆๆๆ ว่า อ้อ ออ ออ อ้อ ออ ออ.....           เสียงดนตรีกับเสียงร้องมโนราห์แว่วมายามดึก   เลยให้นึก ถึงความเก่า แต่หนหลัง   อันตัวเรา จะบอกกล่าว เล่าให้ฟัง   เมื่อแต่ครั้ง เวลา กาลก่อนมา             สมัยที่เรายังเด็กๆ เกิดคดีสะเทือนขวัญเกิดขึ้นในหมู่บ้านนั่นคือที่หมู่บ้าน มีการจ้างคณะโนราห์คณะหนึ่งมาทำการแสดง ข้ามเขามาจากฝั่งพัทลุง เป็นคณะแสดงเล็กๆ คืนนั้นเราก็ได้ไปดูด้วย เพราะเราเป็นคนชอบดูมโนราห์ แต่รำไม่เป็น และหนึ่งในโนราห์ที่มารำ หน้าตาดี เราก็ดูจนจบก็หลบบ้านนอน ตื่นเช้ามา มีตำรวจมาที่หมู่บ้าน พ่อเราก็ไปฟังข่าวก็กลับมาเล่าสู่แม่ฟัง เร

เรื่องผีที่นนทบุรี

1. เรื่อง   อาถรรพ์ดอกไม้แดง - คุณเบิร์ด                 เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในโรงหนังแห่งหนึ่งที่นนทบุรี เบิร์ดทำงานที่โรงหนังนั่น และทุกวันพระโรงหนังจะใช้พวงมาลัยดอกดาวเรืองไหว้พระ มีน้องใหม่เข้ามาทำงาน และพรุ่งนี้จะเป็นวันพระ ผู้จัดการบอกให้น้องว่าซื้อพวงมาลัยมาไหว้ด้วย แต่พวงมาลัที่น้องได้ซื้อมาเป็นดอกไม้สีแดง แต่ทุกคนก็คิดว่าไม่เป็นไร เพราะมีดอกดาวเรืองเล็กๆอยู่ด้วย ทุกคนก็เดินไหว้ไปเรื่อยๆ แต่ทั้งก็เกิดเรื่อง โรงแรกนั้นเครื่องเปิดไม่ติดเลย จนได้ยกมือขอขมา จึงติด พอโรงต่อไป พอหนังฉายไปประมาณครึ่งชั่วโมงไฟเกิดดับขึ้น แล้วสักพักก็ติด แล้วก็ดับไปอีก เป็นอยู่แบบนั้นจนต้องปิดและรีเซ็ตเครื่องใหม่หมด ทุกคนวุ่นวายมากในวันนั้น และทุกคนก็กำลังเตรียมจะกลับบ้าน แล้วเบิร์ดคิดว่าลืมปิดเครื่องสแกนแว่น ก็ชวนเพื่อนเดินไปดู แต่โรงหนังนั้นมืดมาก พอเดินไปได้กลางโรงได้ยินเสียง ตึก ตึก ตึก ตึก รัวๆๆ เบิร์ดก็หยุด แล้วก็ก้าวต่อไปอีก ก็ดังอีก เบิร์ดก็หยุด รอนิ่งฟัง แล้วได้ยินอีก เบิร์ดสาดไฟฉายใส่ไป ปรากฏว่าเจอเป็นข้อเท้าคน เห็นช่วงข้อขาลงมาข้อเท้า เบิร์ดและเพื่อนตกใจมาก เบิร์ดคว้าคู่มือเพื่อน

เรื่องผีที่ปทุมธานี

1. เรื่อง   ถุงแดง - คุณเอ็ม                 เรื่องนี้เห็นความคิดเห็นแว๊บ ๆ เล่าไว้ย่อๆ น่าสนใจดี จขกท ก็เลยสนใจ ลองฟังดู เรื่องนี้ย้อนไปปี 2538 เหตุเกิดที่โรงพยาบาลแห่งนึงในปทุมธานี   ซึ่งก็ยังไม่ทันสมัยเท่าไหร่ เอ็มต้องย้ายไปอยู่ที่นั่น เอ็มไปอยู่ชั้นสอง ซึ่งมีคนป่วยอยู่แค่ 3-4 คน เอ็มเห็นเด็กวัยรุ่นคนนึงตัวใหญ่ๆ แต่ตัวเหลืองมาก เป็นไวรัสตับอักเสบบี โดยมีญาติมาส่งแล้วญาติก็กลับไป น้องคนนั้นก็นอนตะแคงข้างไปหาเอ็ม แล้วบอกว่าน้าๆ ขอน้ำหน่อย เอ็มก็เอาน้ำหวานให้ แต่ปรากฏว่าเด็กคนนั้นเอาน้ำหวานราดตัว เอ็มเลยถามว่าทำไมทำอย่างนั้น เด็กคนนั้นบอกร้อนใน เอ็มเลยไปแจ้งพยาบาลมาดู พอตกดึกเด็กคนนั้นก้เรียกเอ็มอีก บอกให้พาไปห้องน้ำ แต่ด้วยความที่เอ็มเห็นมีสายระโยงระยาง เลยเดินไปแจ้งพยาบาล พยาบาลบอกว่าไม่ได้ ต้องให้ฉี่บนเตียง ช่วยหากระโถนให้เค้าฉี่ แต่เด็กคนนั้นก็ไม่ยอม ดึงสายน้ำเกลือออกจะไปเข้าห้องน้ำ พยาบาลก็วิ่งเข้ามาดู แล้วฉีดยานอนหลับเข้าไปที่ถุงน้ำเกลือแล้วกลับไปนั่งดูทีวี ตอนนั้นก็มีคนป่วยพูดว่าทำไมพยาบาลทำแบบนั้นคนป่วยแย่อยู่แล้ว สุดท้ายเด็กคนนั้นก็เพ้อเรียก แม่ๆๆ แล้วก็เหงื่อแตก

เรื่องผีที่นครปฐม

1. เรื่อง   ทางผีผ่าน - คุณวิน                 คุณวินเพิ่งกลับมาจากต่างประเทศ และนัดเจอเพื่อน ม.ปลาย 2 คน ชื่อ คุณโอม กับคุณเอก เลยชวนกันไปกินข้าวแถวนครปฐมตอน 5 ทุ่ม   โดยคุณวินเป็นคนขับ กินข้าวเสร็จประมาณตี 1 แต่ด้วยความไม่ชินทาง ที่เป็นวงเวียน และวันเวย์ โดยไม่มีใครรู้ทาง คุณวินก็ขับไปเรื่อยๆ จนไปถึงทางเล็กๆ เหมือนทางเข้าหมู่บ้าน เลยตัดสินใจถามร้านขายของชำ ก็บอกว่าถึงแยกเลี้ยวขวา ไปถึงก็เป็นแยกแบบลูกรัง แต่มีป้ายเขียนว่าไปกรุงเทพ ที่เป็นป้ายที่ตั้งที่พื้นแล้วมีรอยโดนเหยียบ เลยตัดสินใจไปตามป้ายเพราะกลัวข้างหน้าไม่มีแยกอีก ก็ขับไปเรื่อยๆ จนเป็นถนนเล็กลงมากๆ ไม่มีรถผ่าน มองไม่เห็นอะไรเลย จึงตัดสินใจชวนเพื่อนว่าจะกลับกันทางเดิมมั้ย คุณเอกเลยเปิดไฟในรถ แล้วบอกว่ากลัว แต่คุณวินบอกว่าให้ปิด เพราะกลัวคนมองเห็นในรถว่ามากี่คน และจะเป็นจุดเด่น ซึ่งทางตรงนั้นกลับรถไม่ได้ ทางแคบมาก จนคุณโอมที่อยู่เบาะหลังก็นอนราบลงกับเบาะ แล้วคุณเอกที่นั่งคู่กับคุณวิน ก็เอนเบาะนอนลงเอามือปิดหน้า คุณวินก็ขับต่อไป เจอผู้หญิงใส่เสื้อคอกระเช้าจูงยายแก่ๆ เดินนำหน้ารถไป คุณวินก็ขับรถผ่านไป แล้วมองกระจกหลั