บทความ

กำลังแสดงโพสต์จาก เมษายน, 2017

เรื่องผีที่นนทบุรี

1. เรื่อง   อาถรรพ์ดอกไม้แดง - คุณเบิร์ด                 เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในโรงหนังแห่งหนึ่งที่นนทบุรี เบิร์ดทำงานที่โรงหนังนั่น และทุกวันพระโรงหนังจะใช้พวงมาลัยดอกดาวเรืองไหว้พระ มีน้องใหม่เข้ามาทำงาน และพรุ่งนี้จะเป็นวันพระ ผู้จัดการบอกให้น้องว่าซื้อพวงมาลัยมาไหว้ด้วย แต่พวงมาลัที่น้องได้ซื้อมาเป็นดอกไม้สีแดง แต่ทุกคนก็คิดว่าไม่เป็นไร เพราะมีดอกดาวเรืองเล็กๆอยู่ด้วย ทุกคนก็เดินไหว้ไปเรื่อยๆ แต่ทั้งก็เกิดเรื่อง โรงแรกนั้นเครื่องเปิดไม่ติดเลย จนได้ยกมือขอขมา จึงติด พอโรงต่อไป พอหนังฉายไปประมาณครึ่งชั่วโมงไฟเกิดดับขึ้น แล้วสักพักก็ติด แล้วก็ดับไปอีก เป็นอยู่แบบนั้นจนต้องปิดและรีเซ็ตเครื่องใหม่หมด ทุกคนวุ่นวายมากในวันนั้น และทุกคนก็กำลังเตรียมจะกลับบ้าน แล้วเบิร์ดคิดว่าลืมปิดเครื่องสแกนแว่น ก็ชวนเพื่อนเดินไปดู แต่โรงหนังนั้นมืดมาก พอเดินไปได้กลางโรงได้ยินเสียง ตึก ตึก ตึก ตึก รัวๆๆ เบิร์ดก็หยุด แล้วก็ก้าวต่อไปอีก ก็ดังอีก เบิร์ดก็หยุด รอนิ่งฟัง แล้วได้ยินอีก เบิร์ดสาดไฟฉายใส่ไป ปรากฏว่าเจอเป็นข้อเท้าคน เห็นช่วงข้อขาลงมาข้อเท้า เบิร์ดและเพื่อนตกใจมาก เบิร์ดคว้าคู่มือเพื่อน

เรื่องผีที่ปทุมธานี

1. เรื่อง   ถุงแดง - คุณเอ็ม                 เรื่องนี้เห็นความคิดเห็นแว๊บ ๆ เล่าไว้ย่อๆ น่าสนใจดี จขกท ก็เลยสนใจ ลองฟังดู เรื่องนี้ย้อนไปปี 2538 เหตุเกิดที่โรงพยาบาลแห่งนึงในปทุมธานี   ซึ่งก็ยังไม่ทันสมัยเท่าไหร่ เอ็มต้องย้ายไปอยู่ที่นั่น เอ็มไปอยู่ชั้นสอง ซึ่งมีคนป่วยอยู่แค่ 3-4 คน เอ็มเห็นเด็กวัยรุ่นคนนึงตัวใหญ่ๆ แต่ตัวเหลืองมาก เป็นไวรัสตับอักเสบบี โดยมีญาติมาส่งแล้วญาติก็กลับไป น้องคนนั้นก็นอนตะแคงข้างไปหาเอ็ม แล้วบอกว่าน้าๆ ขอน้ำหน่อย เอ็มก็เอาน้ำหวานให้ แต่ปรากฏว่าเด็กคนนั้นเอาน้ำหวานราดตัว เอ็มเลยถามว่าทำไมทำอย่างนั้น เด็กคนนั้นบอกร้อนใน เอ็มเลยไปแจ้งพยาบาลมาดู พอตกดึกเด็กคนนั้นก้เรียกเอ็มอีก บอกให้พาไปห้องน้ำ แต่ด้วยความที่เอ็มเห็นมีสายระโยงระยาง เลยเดินไปแจ้งพยาบาล พยาบาลบอกว่าไม่ได้ ต้องให้ฉี่บนเตียง ช่วยหากระโถนให้เค้าฉี่ แต่เด็กคนนั้นก็ไม่ยอม ดึงสายน้ำเกลือออกจะไปเข้าห้องน้ำ พยาบาลก็วิ่งเข้ามาดู แล้วฉีดยานอนหลับเข้าไปที่ถุงน้ำเกลือแล้วกลับไปนั่งดูทีวี ตอนนั้นก็มีคนป่วยพูดว่าทำไมพยาบาลทำแบบนั้นคนป่วยแย่อยู่แล้ว สุดท้ายเด็กคนนั้นก็เพ้อเรียก แม่ๆๆ แล้วก็เหงื่อแตก

เรื่องผีที่นครปฐม

1. เรื่อง   ทางผีผ่าน - คุณวิน                 คุณวินเพิ่งกลับมาจากต่างประเทศ และนัดเจอเพื่อน ม.ปลาย 2 คน ชื่อ คุณโอม กับคุณเอก เลยชวนกันไปกินข้าวแถวนครปฐมตอน 5 ทุ่ม   โดยคุณวินเป็นคนขับ กินข้าวเสร็จประมาณตี 1 แต่ด้วยความไม่ชินทาง ที่เป็นวงเวียน และวันเวย์ โดยไม่มีใครรู้ทาง คุณวินก็ขับไปเรื่อยๆ จนไปถึงทางเล็กๆ เหมือนทางเข้าหมู่บ้าน เลยตัดสินใจถามร้านขายของชำ ก็บอกว่าถึงแยกเลี้ยวขวา ไปถึงก็เป็นแยกแบบลูกรัง แต่มีป้ายเขียนว่าไปกรุงเทพ ที่เป็นป้ายที่ตั้งที่พื้นแล้วมีรอยโดนเหยียบ เลยตัดสินใจไปตามป้ายเพราะกลัวข้างหน้าไม่มีแยกอีก ก็ขับไปเรื่อยๆ จนเป็นถนนเล็กลงมากๆ ไม่มีรถผ่าน มองไม่เห็นอะไรเลย จึงตัดสินใจชวนเพื่อนว่าจะกลับกันทางเดิมมั้ย คุณเอกเลยเปิดไฟในรถ แล้วบอกว่ากลัว แต่คุณวินบอกว่าให้ปิด เพราะกลัวคนมองเห็นในรถว่ามากี่คน และจะเป็นจุดเด่น ซึ่งทางตรงนั้นกลับรถไม่ได้ ทางแคบมาก จนคุณโอมที่อยู่เบาะหลังก็นอนราบลงกับเบาะ แล้วคุณเอกที่นั่งคู่กับคุณวิน ก็เอนเบาะนอนลงเอามือปิดหน้า คุณวินก็ขับต่อไป เจอผู้หญิงใส่เสื้อคอกระเช้าจูงยายแก่ๆ เดินนำหน้ารถไป คุณวินก็ขับรถผ่านไป แล้วมองกระจกหลั

เรื่องผีที่ภูเก็ต

1. เรื่อง   สิ่งที่เหลือไว้จากสึนามิ คือเมื่อประมาณ 7 ปีก่อน ผึ้งไปสัมนาที่ภูเก็ต 4 วัน ไปกับหัวหน้า และภรรยาหัวหน้า โดยพักที่โรงแรมแถวหาดป่าตอง ซึ่งก็ดูสวย และใหม่ดี เราแบ่งกันเป็น 2 ห้อง โดยผึ้งนอนคนเดียว.. เช้าวันที่ 2 ตอนทานอาหารเช้ากัน หัวหน้ามาเล่าให้ฟัง ว่าเมื่อคืนเค้าฝันว่า ผึ้งเดินร้องไห้ไปเคาะห้องเค้า กับภรรยา บอกว่าขอนอนด้วย โดยที่มีฝรั่ง 2 คนตามมาด้วย.. ผึ้งฟังแล้วตลกดี แต่ไม่ได้คิดอะไร เพราะก็นอนหลับสบายดี ไม่มีอะไร.. จริงๆ ผึ้งเป็นคริสเตียน และไม่เชื่อเรื่องผี เรื่องวิญญาณเท่าไหร่ ทางเดินออกจากห้องผึ้ง จะเป็นทางเดินยาวๆ และทุกครั้งที่เดินออกจากห้อง ผึ้งจะเดินสวนกับเด็กฝรั่งคนนึง อายุประมาณ 13-14 ปี ผมแดง ตาสีฟ้า หน้าตาใสๆ หล่อเชียว ใส่เสื้อกับ กางเกงสีดำ ดูอายๆ เดินเอาตัวเบียดทางเดินตลอดเลย.. ผึ้งก็เริ่มคิดว่า เจอเด็กคนนี้บ่อยไปรึเปล่านะ ทำไมต้องเดินสวนตรงทางเดินทุกที และทำไมเค้าไม่เคยเปลี่ยนเสื้อเลย ตอนแรกก็คิดว่าคงเป็นลูกของฝรั่งสักคน ที่เค้ามาสัมนากับเรา เพราะถ้าใช่ ก็เป็นไปได้ ที่เราจะเจอกันบ่อย เพราะเราต้องกินข้าวพร้อมกัน ขึ้นรถคันเดียวกัน จนกระทั่ง

เรื่องผีที่เชียงราย

1. เรื่อง เส้นทางสายเปลี่ยว ผมเป็นคนเชียงราย พ่อกับแม่ทำงานที่เชียงใหม่ ด้วยหน้าที่การงาน ทำให้ผมกับน้องชาย ต้องอยู่บ้านตากับยายที่เชียงราย เดือนนึงพ่อกับแม่จะมาหาสักครั้ง หรือไม่ท่านก็จะมารับวันศุกร์เย็นๆ หลังเลิกเรียน เพื่อไปบ้านที่เชียงใหม่ สมัยนั้นบ้านผมจะมีรถมาสด้ารุ่นเก่าคันเล็กๆ แล้วมีแคปเป็นหลังคาอยู่ด้านหลังครับ วันนั้นจำได้แม่น เป็นคืนวันศุกร์นี่ล่ะ ทุกครั้งที่พ่อแม่มารับผมกับน้อง เราจะออกจากเชียงรายราวๆ 4 โมง เพื่อจะได้ไปถึงเชียงใหม่ไม่ดึก และปลอดภัย ถ้าใครเคยขับรถเส้น เชียงราย-เชียงใหม่ จะรู้ว่าถนนเปลี่ยวมาก ทางโค้งคดเคี้ยว ขึ้นเนินลงเนินเยอะมาก เรียกว่าเป็นการขับรถข้ามภูเขา เข้าป่าก็ว่าได้.. วันนั้นเป็นวันที่พ่อผมดันมีธุระ กว่าเราจะออกจากเชียงรายได้ก็ 6 โมงเย็นแล้วครับ.. ขับมาเรื่อย ออกมาได้ไม่นานก็มืดละ และเป็นช่วงหน้าหนาว มีหมอกบางๆ ทำให้ทัศนวิสัยในการมองเห็นลดลง พ่อเลยขับช้า   ขับมาสักพัก เข้าเขตป่าทึบที่สองข้างทางไม่มีหมู่บ้าน ไม่มีไฟข้างทางเลย รถก็เกิดอาการกระตุกๆ ผมกับแม่มองหน้ากันเลิ่กๆ ลั่กๆ พ่อเริ่มลดความเร็วลงอีก จนสักพักจากกระตุก รถมันก็

เรื่องผีที่ประจวบคีรีขันธ์

1. เรื่อง ข้างนอกหน้าต่าง เราไปเข้าค่ายที่หัวหินค่ะ ที่พักเป็นอาคาร 3 ชั้น มีดาดฟ้าข้างบน อยู่ติดชายหาดเลย พวกเราได้อยู่ชั้น 3 ค่ะ มีกิจกรรมมากมายที่ทางโรงเรียนจัดให้ และได้เล่นน้ำด้วย วันแรกผ่านไป ก็ปกติดีไม่มีอะไร แต่พอคืนที่ 2 กลุ่มของเรา 4 คนนอนไม่หลับกัน ยังนั่งจับกลุ่มคุยกันจนดึก ดูนาฬิกาก็ 5 ทุ่มกว่าแล้ว อยู่ๆ เพื่อนเราคนนึงก็เสนอความคิดว่า ‘ ขึ้นไปเล่นบนดาดฟ้ากันดีกว่า คืนเดือนหงายด้วย สว่างดี ’ พวกเราก็ไม่รู้ยังไง เห็นดีเห็นงามกันหมด พอขึ้นมาถึงดาดฟ้าแล้ว ไม่ผิดหวังค่ะ เห็นทะเลชัดมาก ลมเย็นสบาย พวกเราเกาะรั้วระเบียง เรียงแถวหน้ากระดานดูชายหาดกัน สักพักก็ได้ยินเสียง ‘ ครืดดๆๆ ’ เป็นเสียงโซ่ลากกับพื้นค่ะ.. สายตาทุกคน มองหน้ากัน แต่เราก็สังเกตุเห็นว่ามีอะไรๆ ตะคุ่มๆ อยู่ตรงหน้าอาคารด้านล่าง เลยสะกิดเพื่อนดู ปรากฏว่าเป็นคนผมเผ้ายาวรุงรัง ที่เท้ามีโซ่ตรวนลากติดอยู่! ‘ เหี้ย! ’ เพื่อนคนนึงในกลุ่มตกใจตะโกนออกมา แล้วคนๆ นั้น ก็เงยหน้าขึ้นมามองพวกเรา สบตาเราเลยค่ะ หน้าตาน่ากลัวมาก ตอนนั้นรู้เลยว่าสิ่งที่เห็นนั้นไม่ใช่คนแน่ๆ เท่านั้นล่ะ ใส่เกียร์หมาหนีลงมาห้องนอนกัน

เรื่องผีที่ลพบุรี

1. เรื่อง โรงแรมนี้มีผี   เราเป็นคนที่ต้องทำงานออกต่างจังหวัดอยู่เป็นประจำ จนมีครั้งหนึ่ง ได้ไปทำงานที่ลพบุรี ช่วงนั้นเป็นช่วงเคอร์ฟิวเมื่อปีที่แล้วค่ะ และครั้งนี้เราก็จะไปพักที่โรงแรมที่เคยพักประจำ แต่มันเต็ม เลยต้องหาที่อื่น ก็ไปได้โรงแรมเล็กๆ แถวป่าหวายของลพบุรี ได้พักอยู่ชั้น 3 ซึ่งคืนแรกที่นอน เรานอนกับแฟนค่ะ แต่ก็ไม่มีอะไร ทุกอย่างปกติดี.. คืนต่อมา แฟนเราต้องเตรียมตัว เพื่อไปประจำการชั่วคราวที่จังหวัดชัยนาท (แฟนเราเป็นทหารค่ะ) ก่อนไป แฟนก็มาส่งที่ห้อง แล้วถามเราว่า ‘ อยู่คนเดียวได้นะ ?’ เราก็บอกว่า ‘ ได้ ไม่ต้องห่วง.. ’ จนแฟนไปแล้ว ก็ยังโทรมาถามอีกเหมือนเดิม แต่ด้วยความที่เราไม่ได้เจออะไร บวกกับนอนโรงแรมคนเดียวบ่อยๆ จนชินแล้ว.. แต่ในขณะที่คุยโทรศัพท์กับแฟนไปได้สักพัก ตอนนั้นเวลาประมาณตี 3 ได้แล้ว เราก็ได้ยินเสียงดังมาจากข้างนอกห้องค่ะ คือเป็นเสียงคนเปิด-ปิดประตู ปังๆๆ ตลอดเวลา เราก็รำคาญ เลยเปิดประตูไปดูว่าใครทำอะไร แต่พอเปิดไปก็ไม่เจออะไร เงียบกริบเลย ก็เลยปิดประตู กลับเข้าห้องนั่งคุยโทรศัพท์กับแฟนต่อ เราก็ดึงผ้าห่มที่คลุมเตียง ให้มันหลุดออกจากที่คลุม พอหล

เรื่องผีที่อุทัยธานี

1. เรื่อง มอเ ตอร์ไซค์ทางเปลี่ยว ย้อนกลับไปเมื่อ 5-6 ปีก่อน เหตุเกิดที่จังหวัดอุทัยธานี วันนั้นเป็นงานเลี้ยงรุ่นเพื่อน ม.3 ที่จัดกันเองครับ ใช้บ้านเพื่อนผมคนหนึ่งเป็นสถานที่จัดงานเลี้ยง บ้านมันจะอยู่ในอำเภอๆ หนึ่ง ซึ่งก็ไม่ได้เจริญมากนัก.. พอถึงเวลานัด พวกผมมี 8 คน ขี่รถไปกัน 3 คัน 2 คันแรกจะซ้อน 3 ส่วนอีกคันจะซ้อนแค่ 2 ทางไปจะเป็นถนนเปลี่ยว 2 ข้างทางเป็นไร่มันตลอด นานๆ ถึงจะมีบ้านคนสักหลัง.. คืนนั้น ก็สังสรรค์กันตามปกติ มีร้องเพลง ดื่มแอลกอฮอล์บ้าง จนกระทั่งงานจบลง ทุกคนก็แยกย้ายกันกลับบ้าน เวลาตอนนั้นประมาณตี 2 ได้ ตัวผมเองก็เมานะครับ แต่เมาของผม คือสามารถขี่รถกลับบ้านได้อยู่ ขากลับ พวกผมก็กลับทางเดิม นั่งเหมือนเดิมเลย คือ 2 คันแรกซ้อน 3 ส่วนอีกคันจะซ้อนแค่ 2 ตัวผมเองจะอยู่คันแรก ผมขี่กลับกันสักพัก ระหว่างทางก็เห็นศาลไม้เก่าๆ ที่ถูกนำมาทิ้งไว้ข้างทาง มีพวกตุ๊กตานางรำพังๆ และหุ่นตายายเต็มไปหมด ด้วยความเมา ผมก็ปากไว ปากพล่อยครับ ผมชี้ไปที่ศาลไม้ แล้วบอกเพื่อนว่า ‘ จอดๆ กูจะแวะเซเว่น.. ’ แล้วเพื่อนผมก็หยอกผมกลับอีกว่า ‘ มึงเมาแล้ว นั่นน่ะบ้านมึง ไม่ใช่เซเว่น ’ อะไรป