เรื่องผีที่พิษณุโลก

1. 

เรื่อง …. (ไม่มีชื่อเรื่อง)

เราเจอเองที่ร.พ.ที่พิษณุโลกค่ะ ลานจอดรถของร.พ.ทางด้านหลังจะวนๆขึ้นไปเหมือนที่จอดในห้าง วันนั้นไปเยี่ยมเพื่อนที่ร.พ. ที่จอดด้านหน้าร.พ.จอดได้ไม่กี่คัน เหมือนเค้าบังคับให้จอดด้านหลังหมดตอนไปเป็นช่วงเย็นยังสว่างอยู่ วนขึ้นไปจอดชั้นบนเพราะชั้นล่างๆเต็มหมด ได้ที่จอดตรงกลางๆของชั้นทางลงที่จอดรถมีบันไดเล็กๆตรงกลาง แล้วก็มีลิฟท์อยู่ทางขวาสุดด้านล่างมียามนั่งอยู่ แล้วก็เป็นโซนมอเตอร์ไซค์ค่ะเรานั่งอยู่กับเพื่อนในห้องนาน เหมือนอยู่เป็นเพื่อนเค้าเพราะเค้าไม่มีใครมาเฝ้าก็เลยกลับมืดหน่อย ตอนที่กลับไม่ดึกเท่าไหร่ ประมาณ 5 ทุ่มเกือบๆเที่ยงคืนเราเดินไปที่จอดรถด้านหลังแล้วแอบเหวอนิดหน่อย เพราะไฟที่จอดรถเปิดแค่ชั้น 1  กับ 2 ด้านบนมืดสนิท ไม่เปิดไฟเลย แล้วยามก็ไม่ได้นั่งอยู่ด้านล่างเหมือนเดิมที่สำคัญคือเจือกจำไม่ได้ว่าจอดรถไว้ชั้นไหน แล้วรถเราไม่มีปุ่มไฟไซเรนเพื่อเรียกรถด้วย ใจคิดว่าขึ้นลิฟท์ดีกว่า เพราะบันไดตรงกลาง ขึ้นไปก็ไม่มีไฟ มองอะไรไม่เห็นอยู่ดี เอาเป็นว่าขึ้นลิฟท์ไปแล้วพอเปิดประตูลิฟท์มา ก็อาศัยไฟจากลิฟท์นั่นแหล่ะ มองหารถตัวเองเอา ลิฟท์อยู่ทางขวา รถอยู่กลางๆน่าจะพอมองเห็น รถเราสีเทาเข้มค่ะเราเริ่มจากชั้น 3 เพราะชั้นสองไม่จอดไว้แน่ๆ พอลิฟท์เปิดมา ค่อยๆชะโงกหน้าออกไปด้วยใจระทึก มืดมากกกกกกกกกกกกกก มองไม่เห็นหอยโข่งอัลไลเลยยยยยยย ไฟที่ลิฟท์สาดถึงคือ 1 ช่วงบล็อคจอดรถค่ะ เห็นรถสองคันแรก และที่เหลือมืดสนิทสรุปคือต้องใช้วิธีเปิดลิฟท์ค้างไว้เพื่อเดินหารถอีกทีค่ะ แต่ใจก็คิดว่าไม่น่าใช่ชั้น 3แหล่ะ เพราะตอนขับจำได้ว่าวนๆเยอะอยู่นะ สติไม่มีเลยตอนขับ คิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย ทีนี้เข้าลิฟท์ไป ตั้งใจเริ่มใหม่ที่ชั้น 4 พอถึง กว่าลิฟท์จะเปิดนี่ช้ามากกกกกกก ทั้งๆที่เมื่อกี้ปกติค่ะ เราก้าวขาออกไป ยังไม่ทันกดปุ่มที่ทำให้ลิฟท์ค้างไว้หรืออะไร คือลองโผล่ไปก่อนหยั่งเชิงแบบระแวงๆพอเราก้าวขาออกไป  มือเรายังคาอยู่ที่ลิฟท์นะคะ คือกดค้างไว้ไม่ให้ปิด ภาพที่ลิฟท์ส่องให้เห็นในระยะที่บอกไปคือ มีเงาคนกลุ่มหนึ่งวิ่งกรูกันเข้ามาหาเราค่ะ ช่วงเข้ามาใกล้ๆเห็นใบหน้าชัดค่ะ ตาเค้าเป็นสีแดงก่ำ หน้าตาถทึงเหมือนโกรธแค้นมากในสัญชาตญาณรู้เลยว่านี่ไม่ใช่คน กรูมาหาเร็วๆแล้วพอจะถึงตัวเราก็หายวับไป ขาเขอสั่นก้าวไม่ออกจะกลับเข้าลิฟท์ก็ไม่ได้ จะวิ่งไปข้างหน้าก็ไม่ไหว ร้องกรี๊ดอะไรก็ไม่มีค่ะ ได้แต่หลับตาปี๋ พอสติกลับมาอีกทีคือรีบเข้าลิฟท์แล้วกดลงรัวๆ เปิดมาอีกทีชั้นล่าง แต่กว่าจะถึงเหมือนจะขาดใจ สรุปคืนนั้นนอนค้างที่ร.พ.กับเพื่อน เพื่อนถามอะไรก็ไม่ตอบค่ะ เช้ามาให้พ่อมาเอารถให้ ไม่กล้าแม้แต่จะไปอีกแล้วในตอนกลางวัน ทุกวันนี้ชั้นบนของลานจอดรถร.พ.นั้นก็ยังไม่เปิดไฟนะคะ ไม่รู้จะประหยัดหาพระแสงของ้าวอะไรกัน 

ขอบคุณที่มา .... https://pantip.com/topic/32030480 (ความคิดเห็นที่ 98)
.................................................
.................................................



2.

เรื่อง คุณลุงที่หายตัวไป

เรื่องนี้ส่งเข้ามาจากคุณป๊อบครับ คุณป๊อบเล่าว่า.. ย้อนไปประมาณ 6-7 ปีที่จังหวัดพิษณุโลก ต้องขอท้าวความก่อนว่า คุณลุงผมเคยประสบอุบัติเหตุรถชนมาครับ สมองถูกกระทบกระเทือนอย่างหนัก จนเลอะเลือนกลายเป็นคนสติไม่ดีไปเลย คนแถวบ้านจะเรียกแกว่า ตาบัว ตั้งแต่เกิดเรื่องมา แกก็จะออกไปอยู่ของแกเอง ไม่ยอมเข้าใกล้ลูกหลานคนไหนเลย และแกน่าจะจำญาติๆ ได้แค่บางคนเท่านั้น แกจะมาขอข้าวบ้านป้าผมกินทุกๆ เช้า กับเที่ยง ถึงแม้ว่าลุงจะสติไม่ดี แต่ก็ยังรู้จักทำมาหากินนะครับ แกจะเก็บขวดขาย โดยจะเดินเก็บไปทั่วตลาดแถวบ้านผม และหมู่บ้านรอบข้าง

มีอยู่วันหนึ่ง ลุงแกก็ออกไปเก็บขวดอะไรของแกตามปกติ แล้วแกก็คงปวดฉี่ คือปวดตรงไหนก็ฉี่มันตรงนั้นน่ะครับ วันนั้นแกก็ไปฉี่รดศาลเข้า ผมก็ไม่แน่ใจว่าศาลอะไรที่ไหนนะครับ มีชาวบ้านที่เห็นเขามาเล่าให้พ่อแม่ผมฟังอีกที.. พอวันถัดมา ลุงแกก็หายไป พ่อแม่ผมเลยไปถามป้าว่า วันนี้ลุงได้มาเอาข้าวไหม? ป้าก็บอกไม่ได้มา.. พ่อผมลองไปหาที่ที่แกเคยอาศัยอยู่ก็ไม่เจอ จน 2-3 วันเข้า พ่อก็เริ่มโทรหาพวกลูกๆ หลานๆ ที่เป็นผู้ชาย ให้ไปช่วยกันหาตามที่ที่แกเคยไป จน 2 อาทิตย์ผ่านไป ก็ยังหาไม่เจออยู่ดี เลยต้องเพิ่มบริเวณค้นหากว้างขึ้นไปอีก จนไปได้เรื่องจากชาวบ้านแถวๆ หมู่บ้านน้ำยางว่า เห็นลุงเดินขึ้นไปบนเขา เหมือนมีคนพาแกเดินขึ้นไป..คำตอบนั้นทำให้พวกผมเริ่มมีกำลังใจขึ้นมาหน่อย

วันแรกที่รู้เรื่อง ก็พากันขึ้นเขาไปหาเลยครับ แต่ตอนนั้นเย็นมากแล้ว เลยขึ้นไปกันได้แค่ครึ่งลูก ซึ่งก็ไม่เจอลุง.. วันที่ 2 ก็ไปกันใหม่ เริ่มหากันตั้งแต่ช่วงสายๆ วันนี้เดินกันจนขาลากเลยทีเดียว ข้ามเขากัน 2-3 ลูก แต่ก็ไม่เจอยู่ดี พวกญาติๆ ก็เริ่มล้ากันหมด คืนนั้นเลยตัดสินใจบนกันว่า ถ้าหาลุงเจอ จะบวชให้เป็นเวลา 7 วัน.. เช้าวันที่ 3 ก็ออกไปหากันอีก ปรากฎว่าเจอลุงจริงๆ ครับ แกนอนอยู่ที่ทางขึ้นเขา ห่างจากตีนเขามาได้แค่ 300 เมตรเท่านั้นเอง แต่ก็สายไปแล้วครับ ลุงเสียแล้ว สภาพศพผอมแห้งมาก เหมือนอดข้าวอดน้ำมานาน และยังมีหนอนมีแมลงขึ้นเต็มตัวไปหมด พวกญาติๆ เห็นอย่างนั้นถึงกับเข่าอ่อนเลยครับ

แต่ทุกคนกลับรู้สึกแปลกใจมาก ทั้งๆ ที่อยู่แค่ตรงนี้เอง ที่ที่เดินผ่านทุกครั้งก่อนขึ้นเขา และลุงก็น่าจะอยู่ตรงนี้มาตลอด เพราะสภาพศพคือเสียชีวิตมานานแล้ว แต่.. ทำไมตอนเดินผ่าน 2 วันแรกถึงไม่มีใครเห็น? ..หลังจากเรียกมูลนิธิมาจัดการเก็บศพเรียบร้อย พวกญาติๆ พี่ๆ ก็เลยบวชให้ 7 วันตามที่บนไว้ครับ.. เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ ถือว่าเป็นเรื่องที่แปลกมากจริงๆ ครับ น่าจะเหมือนที่โบราณเรียกว่า ผีบังตานั่นเอง.. ตอนลุงแกไปหมดแรงอยู่ตรงนั้น ก็อาจจะไม่สามารถเรียกให้ใครได้ยิน หรือได้เห็นเหมือนกันก็เป็นได้.. และอีกอย่างคือ ใครเป็นคนพาลุงไปที่เขากัน? ยิ่งคิดก็ยิ่งขนลุกครับ

RIP แด่ลุงบัว ขอให้ลุงไปสู่สุขติครับ

Story by คุณป๊อบ

ขอบคุณที่มา https://www.thehouse.online/story/

 

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

เรื่องผีที่สมุทรปราการ

เรื่องผีที่ร้อยเอ็ด

เรื่องผีที่ลำปาง