เรื่องผีที่ระยอง


1.

เรื่อง ซ้อน 4 ที่ทางเปลี่ยว

เรื่องนี้เป็นอีกเรื่องจากคุณไนท์ครับ คุณไนท์เล่าว่า.. ผมเป็นคนระยองครับ เหตุการณ์ต่อไปนี้ผ่านมาประมาณ 6 ปีเห็นจะได้แล้ว เป็นคืนที่ผมกับเพื่อนอีก 3 คนจำได้ไม่มีวันลืมเลย.. ช่วงนั้นผมกำลังจะจบการศึกษาระดับ ปวส. ของโรงเรียนอาชีวะแห่งหนึ่งในจังหวัดระยองครับ วันหนึ่ง ผมกับเพื่อนผู้หญิงอีก 3 คน ต้องทำรายงานฉบับหนึ่งส่งอาจารย์ ถ้าไม่มีส่งก็จะไม่จบ พวกเราจึงต้องไปหาร้านนั่งทำรายงาน แต่ปัญหาคือรถมอเตอร์ไซค์มีแค่คันเดียว เลยจำเป็นต้องซ้อน 4 กันไป ตอนนั้นบอกเลยครับว่าผมยังขี่มอเตอร์ไซค์ไม่เป็น ผมเลยเป็นคนซ้อนท้ายสุดครับ..

ขี่หากันอยู่สักพักก็เจอร้านทำรายงาน ก็นั่งทำกันไปยาวๆ กว่าจะแล้วเสร็จก็ปาไปประมาณตี 1 ครึ่งได้ ต่างคนต่างง่วงนอน เลยจะกลับบ้าน แต่ประเด็นคือบ้านผมเนี่ยอยู่คนละทางกับคนอื่นๆ อีก 3 คนที่เหลือบ้านอยู่ทางเดียวกันหมด เลยต้องไปส่งผมก่อน ก็เหมือนเดิมครับ      

ผมนั่งคนสุดท้าย.. บ้านผมอยู่เส้นหลังแหลมทอง เด็กระยองน่าจะรู้จักกันดี.. ขี่รถไปได้สักพักก็สังเกตุได้ว่า เวลานี้ถนนเส้นนี้มันเปลี่ยวมาก แทบจะมีไม่รถวิ่งเลย แต่ผมก็ไม่ได้คิดอะไรเพราะนั่งกันมาตั้ง 4 คน ไม่ต้องกลัวว่าจะมีคนมาทำร้าย แต่กลัวอะไรที่ไม่ใช่คนมากกว่า..

ขณะที่นั่งคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย ตาผมก็ดันเหลือบไปมองข้างทาง เห็นผู้ชายคนหนึ่งกำลังนั่งกินของเซ่นไหว้ที่ใต้ต้นไม้อยู่ ผมรู้สึกมั่นใจมาก ว่านั่นต้องไม่ใช่คนแน่ๆ เลยหันไปมองทางอื่นแทน ได้แต่ภาวนาในใจว่า อย่าให้เขารู้ว่าผมเห็นเขาเลย..แต่คงสายไปแล้วล่ะครับ มันเหมือนมีอะไรดลใจให้ผมหันกลับไปมองอีกครั้ง.. แต่ภาพที่เห็นนั้นไม่เหมือนเดิมครับ เขาไม่ได้นั่งกินของเซ่นแล้ว แต่เขากำลังวิ่งเข้ามาหารถพวกเรา! ผมช็อคมากรีบหันกลับ แต่ก็กลัวว่าเพื่อนๆ จะกลัว เลยไม่ได้พูดอะไรออกมา จนชั่วอึดใจ ก็รู้สึกได้ว่ามีอะไรบางอย่างมานั่งอยู่ข้างหลังผม และรถก็ยุบตัวลง ผมตกใจจนต้องร้องเสียงหลงว่า เหี้ย!!แต่เพื่อนผมอีก 3 คนกลับพูดพร้อมกันว่า ไม่ต้องพูดอะไร พวกกูรู้แล้ว..

ผมรู้สึกอึดอัดมากได้แต่สวดมนต์ท่องบทสวดผิดๆ ถูกๆ แล้วไปต่อได้สักพักยางรถก็แตกอีกครับ เพื่อนที่นั่งข้างหน้าผมพูดว่า จอดดูรถก่อนไหม?’ ผมตอบกลับไปแบบไม่ต้องคิดเลยครับว่า ไม่ต้องดู! ไปต่อเลย จะถึงบ้านกูแล้ว!เพื่อนมันเลยไปต่อทั้งที่ยางแตก ..จนจะถึงซุ้มประตูหมู่บ้านผม ก่อนถึงซุ้มประตูจะมีสนามเด็กเล่น และศาลเจ้าที่ตั้งอยู่ พอมาถึงตรงนี้ผมรู้สึกโล่งเลยครับ ผมหันไปมองที่ศาล กลับเห็นชายคนเดิมที่นั่งรถมากับพวกเรา กำลังนั่งกินของเซ่นของศาลเจ้าที่นั้น.. ผมกับเพื่อนๆ รู้สึกเหมือนหลุดพ้นจากอะไรบางอย่างแล้ว และขี่รถต่อจนถึงบ้านผม.. สรุปคืนนั้นต้องนอนค้างบ้านผมกันหมด ไม่มีใครกล้ากลับไปเส้นทางเดิมอีกเลย พวกเรานอนรวมกันทั้งหมด ไม่มีใครอาบน้ำหรืออยู่ห่างกันเลยครับ.. จากนั้นเวลาขี่รถกลางคืนนี่ พวกเราไม่กล้าหันไปมองข้างทางอีกเลย เพราะกลัวว่าจะมีอะไรตามมาอีก..

Story by คุณไนท์
ขอบคุณที่มา https://www.thehouse.online/story/
 ................................................................................
...............................................................................................



2.

เรื่อง ผู้หญิงที่ชั้น 14

นี่เป็นเรื่องจริงของผมเลยครับ เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อปีที่แล้วนี่เอง ตอนนั้นผมเดินทางไปทะเลกับเพื่อนๆ ที่ระยอง และได้เข้าพักกันที่อพาร์ทเม้นท์แห่งหนึ่งในตัวเมือง.. ก่อนที่จะเดินทางมา เพื่อนผมมันไปอ่านเจอมา ถึงที่พักในจังหวัดระยอง ว่าคนมักจะเจอเรื่องอะไรแปลกๆ บ่อยๆ เช่น ทีวีเปิดปิดเอง เปลี่ยนช่องเอง.. เห็นเงาคนเดินผ่านนอกหน้าต่างทั้งๆ ที่ไม่มีระเบียง.. และก็อีกหลายๆ อย่างครับ แต่ว่าผมไม่ค่อยสนใจ เพราะผมเป็นคนไม่เชื่อเรื่องพวกนี้เลย และอีกอย่างมาเที่ยวครั้งนี้ผมนอนคนเดียวด้วย เลยคิดว่ามันคงจะหาเรื่องหลอกให้ผมกลัวเล่นๆ

พอมาถึง ก็ไปเช็คอินกันครับ พนักงานต้อนรับที่นี่ รวมถึง รปภ. จะเป็นผู้หญิงทั้งหมด.. หลังจากนั้น ผมกับเพื่อนๆ ก็ออกไปเที่ยวเล่นกันจนเหนื่อย กว่าจะกลับมาพักที่ห้องก็มืดครับ.. แล้วก็เล่นไพ่กันต่ออีก ที่ห้องเพื่อนคนนึงชั้น 14 ครับ พวกเราเล่นกันจนถึงตี 1 ได้ ผมก็ง่วงมากแล้วตอนนั้น เลยขอแยกตัวไปนอนก่อน.. ช่วงนั้นห้องค่อนข้างเต็มครับ ผมได้ห้องแยกไปอยู่ที่ชั้น 10 ส่วนเพื่อนคนอื่นๆ อยู่ชั้น 14 กันหมด ตอนที่ผมเดินออกมากจากห้องเพื่อนไปที่ลิฟท์ ร่างกายอ่อนแรงมาก ตัวเย็นๆ วูบๆ แต่ก็ไม่คิดอะไร สงสัยคงเหนื่อยจัด.. รอสักพักลิฟท์ก็เปิดออก ผมเข้าลิฟท์ไป และก็มีผู้หญิง วัยกลางคน อายุสัก 30-40 ได้ เดินตามเข้ามาหลังผม ด้วยความเคยชิน ผมเลยถามว่า ลงชั้นไหนครับ?’ เขาตอบผมว่า ชั้น 14ผมก็นึกในใจ อ่าวนี่ก็ชั้น 14 นี่ งงๆ ไป ผมเลยกดไปชั้น 10 ที่ผมพัก..

 

ระหว่างลิฟท์ลง ผู้หญิงคนนั้นยืนชิดผมมาก และเอาแต่ก้มหน้าก้มตา ไม่พูดอะไร หางตาผมชำเลืองไปเห็นว่าผู้หญิงคนนั้นไม่มีขาครับ! ผมก็ข่มใจตัวเอง คงคิดว่าตาฝาด คงเหนื่อยละมั้ง บวกกับผมไม่เชื่อเรื่องพวกนี้ ผมเลยลองเขยิบออกมานิดนึง เพื่อจะได้มองชัดๆ อีกที.. แต่มองอีกที ผู้หญิงคนนั้นก็ไม่มีขาจริงๆ ผมนิ่งไปเลยครับ ไม่เคยรู้สึกแบบนี้เลย คือเสียววาบที่หลังคอ เหมือนต่อมความกลัวแตก ผมคิดในใจว่า ผมคงโดนเข้าแล้วล่ะครับ.. จนถึงชั้น 10 ผมมือไม้สั่น ขาแทบก้าวไม่ออก จนกระทั่งลิฟท์เปิด ผมรีบเดินออกมาอย่างไวครับ แต่ผมคาใจ เลยรวบรวมสติ หันไปมองอีกรอบก่อนประตูลิฟท์ปิด ขาไม่มีครับ ลอยๆ อยู่อย่างนั้นเลย.. 3 ครั้งนะครับ ผมไม่ได้ตาฝาดไปจริงๆ

ผมเข้ามาถึงห้อง รีบโทรหาเพื่อนก่อนเลย เพราะจะกลับขึ้นไปก็ไม่กล้าแล้ว ผมเล่าเรื่องทั้งหมดให้ฟัง และบอกให้พวกเพื่อนผมลงมาหา เพื่อนผมก็ตกลง เดี๋ยวรีบลงมา พอคุยกันจบยังไม่ได้วางสายเลย ไฟก็ดับลงเฉยๆ ผมนี่สะดุ้งเลย กลัวมากๆ กลัวว่าผู้หญิงคนนั้นจะมาให้เห็น ผมรีบคลุมโปงหลับตา ปิดหู กลัวทั้งภาพ ทั้งเสียงเลยครับ จนสุดท้ายด้วยความเพลีย ผมนอนหลับไปตอนไหนก็ไม่รู้..

มารู้สึกตัวอีกที คือตอนเช้า เสียงเพื่อนมาเคาะประตูครับ.. มันเล่าให้ผมฟังว่า มันน่ะมาหาผมตั้งแต่ที่วางสายเมื่อคืนแล้ว แต่พอลงมามันเห็นเงาดำๆ เดินวนเวียนอยู่หน้าห้องผม! มันเลยต้องกลับห้องเพราะก็กลัวผีเหมือนกัน.. นั่นยิ่งทำให้ผมมั่นใจว่าที่เจอคือของจริงครับ

ผมเก็บข้าวของเสร็จก็ลงไปเล่าเรื่องนี้ให้ รปภ. หน้าอพาร์ทเม้นท์คนหนึ่งฟัง ว่าผมเจอแบบนี้มานะ เรื่องมันเป็นยังไง? ตอนแรกเธอก็ไม่เล่าครับ ผมเลยจ้างให้เล่าไปร้อยนึง เพราะผมอยากรู้จริงๆ แต่เธอขอ 150.- ขาดตัว ผมก็อึ้งๆ แต่ก็ให้ไป.. เลยยอมเปิดปากเล่าว่า ที่นี่เฮี้ยนจริงๆ แต่ก็ถือว่าผมน่ะโชคดี ที่เขามาให้เห็นเฉยๆ ความจริงแล้วผู้หญิงในลิฟท์น่ะ เมื่อหลายปีก่อน เธอถูกสามียิงตายในลิฟท์ ประมาณว่าทะเลาะกับแฟน แต่ก็ไม่มีใครรู้สาเหตุจริงๆ เจ้าของอพาร์ทเม้นท์ทำบุญ และอุทิศส่วนกุศลไปให้ทุกๆ ปี แต่ว่าเธอไม่ยอมไปไหน ยังวนเวียนหลอกหลอนอยู่ที่นี่ แต่ก็แปลกที่จะหลอกแต่เฉพาะกับผู้ชายเท่านั้น..

Story by คุณเบียร์

ขอบคุณที่มา https://www.thehouse.online/story/

 .............................................................
...............................................................


3.

เรื่อง  ยายเป็นใคร-คุณเจมส์

                เกิดขึ้นบนถนนสายหนึ่งในจังหวัดระยอง เรื่องเกิดต้นปี 2556 เจมส์เป็นตำรวจ แล้วคืนหนึ่งต้องไปล่อซื้อยาเสพติดหลังโรงพยาบาลดังจังหวัดระยอง ผลก็จับคนร้ายได้ ขณะกำลังขับรถกลับ  เจมส์เป็นคนขับ ลูกน้องนั่งข้างๆ แล้วก็คนร้ายอยู่ด้านหลังพร้อมตำรวจคุม 3 ราย แล้วก็มีตำรวจที่ขับรถคนร้ายตามมา ขับไปเรื่อยๆ ถนนมืดมาก เจมส์มองไปเห็นยายคนหนึ่ง ถือกระสอบ เหมือนรอใคร  แต่ไม่สามารถรับได้ตามกฏเพราะมีคนร้ายอยู่บนรถ เจมส์ก็ไม่ได้จอดรับหรือถาม แต่พอขับไปประมาณ 200 เมตร ก็เจอยายคนเดิมอีก มีกระสอบเหมือนเดิม เจมส์ก็ไม่พูดไม่ทัก พอขับไปอีก 200 เมตร ก็เจอยายอีก พอครั้งที่ 3 ลูกน้องเจมส์ที่นั่งข้างๆ ก็พูดขึ้นมาเลยว่าพวกผมเป็นผู้พิทักษ์สันติราษฎร์มาหลอกมาหลอนทำไม โดยเจมส์ห้ามไม่ทัน ก็เห็นแค่สามครั้งก่อนถึง สน. ตี 4 กว่า เสร็จงานกลับบ้าน ตำรวจที่ทักไลน์มาเจมส์ว่าให้ไปหาที่บ้านด่วนมีเรื่องอยากคุย เจมส์ก็รีบไป พอถึงบ้านลูกน้อง เจมส์ก็กดออด ภรรยาของลูกน้องก็หน้าซีดออกมาเปิดประตู แฟนลูกน้องก็เล่าให้ฟังว่าตอนที่ลูกน้องเจมส์กลับมากดออดเรียกอยู่ ดูผ่านกล้องวงจรปิดเห็นเป็นยายถือกระสอบขาวๆ ยืนอยู่ด้านหลัง แล้วก็ลงไปเปิดประตูแล้วถามว่ายายไปไหนแล้ว ขอทานหรือเปล่าทำไมไม่ให้เศษทานเขาไป ลูกน้องเจมส์ก็ตกใจแล้วเรียกเจมส์มา พอคุยกับลูกน้องที่ขับรถคนร้ายตามมาซึ่งโทรมาเล่าให้ฟังว่า เห็นยายแก่ๆ กระโดดขึ้นหลังคารถที่มีคนร้ายอยู่ พอถึง สน. ยายก็เปลี่ยนรถไปนั่งรถลูกน้องเจมส์คนที่ทัก พอเช้ามา ก็พากันไปวัด แต่ไปนั่งทานเต้าหู้ คือไปกัน 4 คน แต่คนขายจัดมาให้ 5 ชุด เจมส์เลยถามว่า มากันแค่ 4 คน ทำไมจัดมา 5 ชุด คนขายเลยถามว่า อ้าวแล้วยายที่นั่งอยู่บนรถไม่ลงมาเหรอ ก็พากันตกใจ แล้วเจมส์เลยถามว่า คันไหน รถ 2 คัน รถเจมส์ กับ รถของตำรวจที่เห็นยายกระโดดขึ้นหลังคารถตำรวจ พอไปถึงวัด พระก็บอกว่า เค้ารออยู่หน้ารถ ใครไปทักเค้ามา

                1 ปีผ่านไป เจมส์โทรมาเล่ากับรายการเดอะช๊อกอีกครั้ง คราวนี้เจอกับลูกน้อง 2 คนที่เพิ่งมาทำงานที่ระยองใหม่ๆ  โดยออกตรวจพื้นทีโดยรถมอเตอร์ไซด์ ก็เห็นยายคนหนึ่งเดินอยู่ข้างถนนแล้วกวักมือเรียก จึงพากันจอดถาม ว่ามายืนทำอะไรดึกดื่น ยายก็บอกว่ามายืนรอหลาน หลานบอกกลับไปบ้านนานแล้วไม่มารับสักที ตำรวจมากันสองคนไม่สามารถรับยายขึ้นด้วยได้ จึงบอกให้ยายรอว่าจะไปตามรถยนต์สายตรวจ โดยให้อีกคนยทนเป็นเพื่อนยาย อีกคนยืนคุยกับยาย ก็สังเกตุว่ายายยืนแปลกๆ เหมือนกับว่าร่างลอยไปลอยมา ก็เลยตัดสินใจหยิบไฟฉายกระบอกเล็กๆ ทำท่าส่องไปที่กระสอบ ยายก็เปิดกระสอบแล้วส่งให้ดู ก็เห็นเป็นปลาเน่าเต็มกระสอบ กลิ่นเหม็นเน่าคลุ้ง นอนยั้วเยี้ย ตำรวจเลยอุดจมูกถามว่าปลาตั้งแต่เมื่อไหร่ ยายบอกนานแล้ว เลยถามว่ายายมาตั้งแต่เมื่อไหร่ ยายก็เลยบอกว่ายายมาอยู่นี่นานแล้ว ไปไหนไม่ได้ จังหวะที่ตำรวจจะเก็บไฟฉาย ก็ส่องผ่านไปตรงผ้าถุงยาย ปรากฏว่ายายไม่มีขา ไม่ได้ยืนด้วยขา ตำรวจรู้ทันทีว่ายายไม่ใช่คน แล้วก็หลับตายกมือไหว้ แล้วบอกไปสู่สุขคติเถอะเดี๋ยวทำบุญไปให้ แล้วหยิบวิทยุเรียกเพื่อนกลับมารับ เพื่อนถามกลับว่า จะไปตามรถยายไม่กลับแล้วเหรอ ตำรวจคนนั้นก็บอกว่ารีบมาด่วน พอ ว. เสร็จ ก็ลืมตา ปรากฏว่ายายหายไปแล้ว  
 ขอบคุณที่มา https://pantip.com/topic/35092208/story


..........................................................................


...........................................................................

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

เรื่องผีที่สมุทรปราการ

เรื่องผีที่ร้อยเอ็ด

เรื่องผีที่ลำปาง