เรื่องผีที่ชลบุรี


1.
เรื่อง ชายหลังคาศาลา

เรื่องนี้ส่งเข้ามาจากคุณน้ำเพชรครับ คุณน้ำเพชรเล่าว่า.. เราอยู่จังหวัดชลบุรีค่ะ ย้อนกลับไปตอนเราอายุ 17 ปี เป็นวัยกำลังเที่ยวเลย คือเช้าไปเรียน เย็นก็ออกเที่ยว.. เราเองเป็นคนที่เชื่อเรื่องผีสางมาแต่เด็ก เพราะที่บ้าน คุณย่าเราเป็นร่างทรงคอยช่วยเหลือคน และเราเองก็เป็นคนที่มีสัมผัสเรื่องพวกนี้อยู่เหมือนกันค่ะ.. มีอยู่วันหนึ่งเป็นเย็นวันศุกร์ เราเลิกเรียนก็นั่งรถกลับบ้าน ทำการบ้านอะไรเสร็จ แฟนเราก็ขี่รถมารับเราออกไปข้างนอก กลับดึกไม่ห่วงเพราะอีกวันเป็นวันเสาร์ค่ะ.. เรากับแฟนไปนั่งเล่นกันที่บ้านเพื่อนของแฟน เพื่อนๆ แฟนก็ทยอยมากันเรื่อยๆ จนเกือบครบ ขาดเพื่อนอีกคนหนึ่งที่ชื่อ ทีม

เวลาประมาณ 5 ทุ่มกว่า ทีมก็โทรมาหาแฟนเรา บอกให้ไปรับหน่อย ไม่มีรถออกจากบ้าน ซึ่งบ้านทีมก็ไกลเอาเรื่องอยู่ เลยตัดสินใจพากันไปยกกลุ่มเลย 13 คน รถมอเตอร์ไซค์ 7 คัน.. ซึ่งทางไปบ้านทีมก็เปลี่ยวสุดๆ ไม่มีรถผ่านไปมาสักคัน มีบ้านคนริมทางบ้าง แต่เขาก็ปิดไฟกันหมดแล้ว ไฟทางก็มืดบ้างสว่างบ้าง บรรยากาศน่ากลัวมาก.. พอไปถึงบ้านทีม ทีมก็บอกให้พวกเรารอก่อนแป๊บนึง รอแม่เลิกงานกลับบ้านมาก่อนค่อยออก แม่ใกล้จะมาถึงแล้ว เรากับแฟน และเพื่อนๆ แฟนก็จอดรถรอกันหน้าบ้านทีมนั่นแหละ แต่ปรากฏว่าหมาแถวนั้นเห็นคนเยอะมันเลยเห่าเสียงดัง คนแถวนั้นเลยออกมาด่า ทีมเลยตะโกนออกมา บอกให้ไปรอแถวปากซอยกันก่อน หมาจะได้ไม่เห่า แล้วเดี๋ยวจะเดินตามออกไปเอง

ทุกคนก็ขี่รถไปรอกันที่ศาลาริมทาง ซึ่งอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลจากบ้านทีม ศาลานี้ตั้งอยู่หน้าโรงเรียนแห่งหนึ่ง ออกจะเก่าๆ หน่อย ข้างศาลาจะมีต้นจามจุรี ส่วนอีกข้างจะเป็นทางเข้าโรงเรียน.. ทุกคนเข้าไปจอดรถกันในศาลาเลย แฟนเราก็ขี่เข้าไปจอดเหมือนกัน ก็นั่งคร่อมรถรอกันอยู่อย่างนั้น แต่รถคันเรามันอยู่นอกชายหลังคา พอเรามองขึ้นไปบนหลังคาแล้วรู้สึกไม่ค่อยดียังไงบอกไม่ถูก เลยสกิดให้แฟนขยับรถเข้าไปอีก แต่มันก็ขยับเดินหน้าไปได้แค่นิดเดียว เพราะติดรถคันอื่นๆ ในศาลา ทีนี้กลายเป็นว่า หัวเราอยู่ตรงกับชายหลังคาพอดี.. ระหว่างที่รอ คนอื่นๆ เขาก็คุยกันเฮฮาปกติ แต่อยู่ดีๆ เราก็หูอื้อขึ้นมาเฉยๆ แทบจะไม่ได้ยินเสียงที่คุยกัน จนมีเพื่อนแฟนคนหนึ่งชื่อต่อ มาสกิดเราถามเราว่า เพชรเป็นไรอะไร ทำไมนั่งนิ่งๆ เหงื่อไหลเต็มตัวเลย?’ เราสดุ้ง ไม่ได้ตอบอะไรกลับ แค่ยิ้มๆ แต่คือเรารู้สึกตัวเลยว่ามันไม่ปกติแน่นอน.. สักพัก ทีมก็โทรมาให้ไปรับ ก็มีเพื่อนแฟนคนหนึ่งอาสาไปรับให้ ส่วนที่เหลือก็รอที่ศาลา

ตอนนั้นเราเวียนหัวจะอ้วก รู้สึกร้อนอบอ้าวมากๆ เลยเงยหน้าขึ้นกะจะมองฟ้ารับอากาศ เท่านั้นแหละ ปังเลย! เราเห็นผู้หญิงในชุดขาว นั่งก้มหน้าอยู่บนชายหลังคาศาลา เพ่งมองลงมา โดยที่ขาของเธอเหยียบลงมาที่ไหล่เราพอดี! ตอนนั้นเราช็อคมากกก! หน้านี่ชา ทำอะไรไม่ถูกเลย เรารีบหลับตาก้มหน้าลง แล้วบอกแฟนให้พาออกไปจากศาลาที แฟนก็ไม่พาออกไป ได้แต่ถามว่า เป็นอะไร?’ ตอนนั้นที่ไหล่เราก็เริ่มรู้สึกหนักขึ้นๆ เราถึงกับร้องไห้ออกมา จนทุกคนตกใจกันหมด ถามว่าเราเป็นอะไร? เราตอบกลับไปแค่ว่า พาเราออกไปจากศาลาที! ทุกคนเลยขี่รถออกจากศาลากันหมดด้วยความงุนงง แล้วมาจอดกันริมถนนแถวนั้นเพื่อรอเพื่อนอีกคนที่ไปรับทีมที่บ้าน.. เรานั่งตัวสั่นร้องไห้เสียงดัง พอมองกลับไปที่ศาลา เรายังคงเห็นผู้หญิงชุดขาวนั่งอยู่ที่เดิม แต่กลับไม่มีขาห้อยลงมา พอมองที่ไหล่ตัวเอง ปรากฏว่าขาของผู้หญิงคนนั้นยังคงเหยียบที่ไหล่เราอยู่! เราแทบสติแตก กรีดร้องโวยวายลั่นเลยทีนี้ แฟนเราเลยให้ต่อมาซ้อนท้ายเพื่อจับเราไว้กันเราตกรถ แล้วรีบออกรถไปที่อื่น ต่อกอดเราแน่นมากๆ ด้วยความที่กลัวกับขาดสติ เราร้องไห้ไปตลอดทาง เพื่อนคนอื่นๆ ก็ตามกันมาหมด รวมถึงทีมด้วย

จนมารวมตัวกันที่หน้าเซเว่น ต่อพยุงเราลงจากรถ พยายามเขย่าตัวเรา เรียกชื่อเรา แต่เราก็ร้องไห้ไม่หยุด แฟนเราเข้ามากอด พยามเรียกชื่อเรา จนทีมพูดขึ้นมาว่า พวกมึงไปจอดรถกันที่ศาลาหน้าโรงเรียนใช่ไหม?’ ทุกคนก็ตอบว่า ใช่..จอดในศาลาเลย.. ทีมเลยบอกว่า เพชรเจอผีแน่เลยว่ะ ผีเข้าป่าววะ?’ แฟนเราเลยบอกว่า แต่เพชรใส่พระนะ..พร้อมกับจับที่คอเรา แต่ปรากฏว่าสร้อยพระเราขาดหายไปเมื่อไรก็ไม่รู้!? แฟนเราเลยถอดสร้อยพระของตัวเองมาให้เราใส่ ..สักพักหนึ่ง พอเราเริ่มสงบ ทุกคนก็ตัดสินใจไม่ไปไหนต่อละ ย้อนกลับไปที่บ้านเพื่อนที่ไปทีแรกกันทั้งหมด.. พอไปถึง เราก็เล่าให้ทุกคนฟังว่า มีผู้หญิงชุดขาวนั่งก้มหน้าอยู่บนชายหลังคาศาลา เท้าเธอเหยียบที่ไหล่เพชร พอออกมาจากศาลามาจอดริมทาง ก็ยังเห็นผู้หญิงคนนั้นนั่งอยู่ที่เดิม แต่ไม่มีขา พอมองที่ไหล่ตัวเอง เท้าเธอก็ยังเหยียบอยู่ และหนักขึ้นๆ เรื่อยๆ แล้วสร้อยพระก็ไม่รู้บังเอิญหายไปตอนไหน..

ทีมบอกว่า เวลาดึกๆ ใครผ่านไปมาแถวนี้เจอกันหมด เอาเข้าจริงๆ ก็เคยได้ยินเรื่องเล่านี้มาก่อน แต่ไม่คิดว่าจะเป็นศาลานั้น..เราบอกแฟนว่าปวดไหล่ แฟนเลยมาบีบไหล่ให้ และถกคอเสื้อดูไหล่เรา ปรากฏว่าไหล่เราเป็นรอยช้ำๆ ทั้ง 2 ข้างเลย แฟนเห็นก็ตกใจ เพื่อนๆ เห็นก็ตกใจ คืนนั้นทุกคนนี่หลอนกันจนไม่กล้ากลับบ้าน ต้องนอนค้างรวมกันหมด.. จนเช้าอีกวันเลยชวนกันไปทำบุญให้ผู้หญิงคนนั้น เธอคนนั้นเป็นใครมาจากไหน ถามคนแถวนั้นก็ไม่มีใครรู้ แต่เป็นที่รู้กันว่า เธอจะมานั่งอยู่บนหลังคาศาลานั้นทุกคืน ถ้าใครโชคดีผ่านไปแล้วมองก็อาจจะเห็น..

Story by คุณน้ำเพชร

ขอบคุณที่มา https://www.thehouse.online/story/
...........................................
...........................................




2


เรื่อง วิญญาณที่ยังไม่ไปไหน


เรื่องนี้ก็เป็นอีกเรื่อง ที่เกิดขึ้นจริงกับพนักงานในร้านอาหารแห่งหนึ่งที่เราไปร้องเพลงประจำ เราได้ฟังจากคนสนิทอีกที และจากปากแฟนผู้ตายเองเลยค่ะ เรื่องมีอยู่ว่า..


แบงค์ กับ อุ้ม (นามสมมติ) เป็นพนักงานในร้านอาหารที่เราร้องเพลงอยู่ ทั้งคู่เป็นแฟนกัน อุ้มเป็น PR ส่วนแบงค์อยู่ บาร์เครื่องดื่ม ร้านที่เราทำงานจะมี 2 สาขา สาขาแรกอยู่บางแสน สาขา 2 อยู่ชลบุรี แบงค์ กับอุ้มประจำที่อยู่ที่สาขาชลบุรี แต่จะมาช่วยสาขาบางแสนบ้าง.. มีอยู่ช่วงหนึ่ง แบงค์ไม่ได้เข้ามาที่ร้านเลย จนวันหนึ่งที่เราไปทำงานตามปกติ ก็ได้ยินคนในร้านพูดกันประมาณว่า แบงค์ผูกคอตาย สาเหตุเพราะทะเลาะกับอุ้ม ส่วนอุ้มก็หนีไปต่างจังหวัด ไม่ติดต่อมาเลย พอมาย้อนดูในคืนก่อนตาย แบงค์กินเหล้ายันเช้า และโพสต์ลงเฟซบุ๊คว่า กินเหล้าอยู่..ต่อมาพี่สาวแบงค์เข้ามาคอมเม้นท์ว่า กินแต่เหล้านะ ดูแลตัวเองบ้าง..แบงค์ก็ตอบกลับว่า ผมกินวันนี้วันสุดท้ายแล้วครับ เดี๋ยวตายผมก็ไม่ได้กินแล้ว..วันที่โพสต์นั้นตรงกับคืนวันอังคาร แล้วแบงค์ก็ผูกคอตายราวๆ ช่วงเช้าต่อมานั้นเอง ที่พอรู้เวลาเพราะก่อนตายแบงค์ได้โทรออกหาเพื่อนคนหนึ่ง แต่เพื่อนคนนั้นไม่ได้คนรับสาย เรื่องที่แบงค์ผูกคอตายในห้องน้ำที่หอพักนั้น ไม่มีใครรู้เรื่องเลย..

พอย้อนเรื่องราวกลับไปก่อนหน้านั้น แบงค์ที่ไม่ได้เข้ามาทำงานหลายวัน เจ้าของร้านเลยต้องโทรตาม แต่แบงค์ก็ไม่รับสาย ให้คนไปดูที่หอก็เห็นมอเตอร์ไซค์จอดอยู่ แต่ห้องปิด ช่วงนั้นอุ้มเองโทรหาก็ไม่รับสาย อุ้มเลยไปหาที่หอ เคาะห้องดูก็เหมือนไม่มีใครอยู่ เห็นแต่เห็นมอเตอร์ไซค์จอดอยู่เหมือนกัน.. จนวันหนึ่ง เพื่อนๆ พนักงานที่ร้าน 3-4 คน พากันไปหาแบงค์ที่หอ แต่พวกเขาไม่รู้ว่าอยู่ห้องไหนของชั้น 4 เลยเดินๆ ไปดูแต่ละห้อง และคอยเรียก แบงค์ แบงค์ แบงค์..แต่พอถึงห้องหนึ่ง ระหว่างที่กำลังเรียกอยู่นั้น จู่ๆ ประตูของห้องข้างๆ ก็มีเสียงลูกบิดดังขึ้น แกร๊ก!เสียงประมาณว่าปลดล็อคห้องน่ะค่ะ ทุกคนได้ยินหมดเลยเดินมาดู ประตูบานนั้นแง้มออกมา แต่ยังเปิดเข้าไปไม่ได้ เพราะคล้องโซ่ด้านในอีกที มองเข้าไปก็ไม่มีวี่แววว่าจะมีคนอยู่ ตอนนั้นทุกคนได้กลิ่นเหม็นโชยออกมาด้วย แต่ก็ทำอะไรไม่ได้เลยกลับไป

หลังจากวันนั้นที่หอพัก กลิ่นมันเริ่มแรงขึ้นทุกวันๆ จากชั้น 4 ลงไปถึงชั้น 1 เจ้าของหอเห็นท่าไม่ดี จึงได้แจ้งให้หน่วยกู้ภัยมาดู กู้ภัยก็มาพังประตูเข้าไป สุดท้ายไปเจอผู้ชายผูกคอตายในห้องน้ำ โดยผูกเชือกไว้กับพัดผมระบายอากาศ ไม่สวมเสื้อ สวมแค่บ๊อกเซอร์ และนั่งอยู่บนชักโครก ผู้ตายรูปร่างสูง และตัวใหญ่ สภาพศพขึ้นอืดมาหลายวันแล้ว ทำให้ไม่สามารถเปิดประตูเข้าไปเอาศพออกมาได้ เพราะศพที่ขึ้นอืดขวางประตูไว้ ทำอย่างไรก็พังประตูไม่ได้ ตั้งแต่บ่ายโมงจน 5 โมงเย็น สุดท้ายต้องจุดธูปบอกว่าจะพากลับบ้านนะ ถึงพังประตูได้ สรุปคือตายวันอังคาร แต่มาเจอศพวันจันทร์ของอาทิตย์ถัดมา..

แต่ช่วงอาทิตย์ก่อนหน้าจะเจอศพนี่สิ คนในหอไม่มีใครรู้เลยว่าแบงค์ผูกคอตาย ห้องข้างๆ บอกว่า กลางคืนก็ได้ยินเสียงคนซักผ้า แปรงผ้า ได้ยินเสียงกึกกักๆ เหมือนปกติ.. ห้องอื่นๆ ก็บอกว่าเคยเห็นแบงค์เดินขึ้นเดินลงไปซื้อของข้างล่างเหมือนกัน.. พ่อค้าลูกชิ้นแถวนั้นก็ยืนยันว่า ยังเห็นแบงค์มาซื้อลูกชิ้นอยู่เลย แต่ถามอะไรก็ไม่ตอบสักคำ.. พอทุกคนมารู้ว่าแบงค์ตายไปแล้วตั้งแต่วันอังคาร ต่างก็หลอนขนหัวลุกไปตามๆ กัน

หลังจากที่เอาศพออกไปแล้ว ก็ยังคงมีคนเจอเหตุการณ์ประหลาดอยู่อีก แม่บ้านที่หอพักยังเห็นแบงค์นั่งร้องไห้ที่บันไดทุกคืน แรกๆ แกกลัวมาก ไม่กล้าอยู่ดึกๆ หรือมาทำงานเช้าๆ เลย กลัวจะเห็น.. คนที่หอก็เห็นกันหลายคน เห็นมานั่งร้องไห้บ้าง ได้ยินเสียงเดินไปมาในห้องบ้าง จนต่างพากันหลอนย้ายออกเกือบหมดตึก.. คนที่ร้านอาหารที่แบงค์ทำงานก็เคยเจอเช่นกัน ตอนเลิกงานปิดไฟร้านแล้ว เห็นเหมือนคนมานอนเล่นมือถือตรงม้านั่งยาว แล้วไฟส่องลงหน้ามาเห็นเป็นหน้าแบงค์ แต่พอจะเปิดไฟไปดู กลับไม่มีใครอยู่ตรงนั้น..

มาถึงเพื่อนๆ เราที่เล่นดนตรีที่นั่นบ้าง ตอนที่ยังไม่รู้ว่าแบงค์ตาย เพื่อนๆ เราบอกว่าจะไปซาวด์เช็คเครื่องดนตรีบนเวที ก็ได้ไปเจอแบงค์อยู่ที่บาร์เครื่องดื่ม ก็ยังทักทายกันตามปกติอยู่เลย 2-3 วันต่อมา พวกเพื่อนๆ เราขับรถผ่านหอนั้น ก็เห็นรถกู้ภัยจอด และมีคนเยอะแยะ พวกเพื่อนเราก็ยังสงสัยว่าเกิดไรขึ้น? แต่ก็ไม่ได้สนใจ จนได้ไปเล่นดนตรีที่อีกสาขาหนึ่ง ผู้จัดการที่นั่นถามเพื่อนเราว่า อ้อมรู้เรื่องไหม? แบงค์ตายแล้วนะอ้อมก็ถาม แบงค์ไหนพี่?’ ผู้จัดการก็บอกว่า อ้าว ก็แบงค์ที่ทำบาร์เครื่องดื่มไงอ้อม กับเพื่อนๆ เราก็ตกใจมาก เพราะไม่กี่วันนี้ยังเพิ่งเห็น เพิ่งได้คุยกันที่บาร์อยู่ อ้อมเลยถามว่า อย่างนี้แสดงว่าเพิ่งตายสิ? เพราะอ้อมยังเห็นแบงค์ที่ร้านนั้นอยู่เลย 2-3 วันก่อน..ผู้จัดการเลยตอบกลับทันทีว่า เพิ่งตายอะไรล่ะ ตายมาเป็นอาทิตย์ละ เพิ่งเจอศพวันจันทร์ที่หอพักน่ะอ้อมก็ตกใจหนักมาก เพราะที่เจอแบงค์วันนั้นคือเจอกันทั้งวง ไม่ใช่แค่อ้อมคนเดียว.. สรุปว่าที่เห็น และคุยด้วยตอนนั้น.. ไม่ใช่คน!?

ส่วนอุ้มแฟนแบงค์ หลังจากแบงค์ตายไป ก็จะรู้สึกตลอดว่าเหมือนกับว่าเขามาอยู่ใกล้ๆ ไม่ไปไหน จนอุ้มกลัวแบบว่า นอนไม่ได้เลย เพราะถ้านอนหลับจะฝันเห็นตลอด และก็มักจะเจออะไรแปลกๆ ถ้ากำลังพูดถึงเรื่องของเขาอยู่ เช่นไฟดับบ้าง ของหล่นเสียงดังบ้าง.. หลังจากเกิดเรื่อง เพื่อนๆ ทุกคนก็ไปทำบุญให้แบงค์ สุดท้ายห้องที่แบงค์เคยอยู่ อุ้มก็ได้ยกของทุกอย่างให้ใครก็ตามที่อยากได้ แต่ก็ไม่มีใครกล้าเอาเลยค่ะ จนสุดท้ายมีคนพม่ามาเอาทั้งทีวี ตู้เย็น ตู้เสื้อผ้า และทราบทีหลังว่า ห้องนั้นเจ้าของหอยกให้คนพม่าคนนั้นอยู่ฟรีตลอด เพื่อเป็นการทำให้คนอื่นๆ สบายใจได้ว่าไม่มีผีแล้ว และมีคนมาอยู่แล้ว เพราะหลังจากเกิดเรื่อง หอนั้นคนย้ายออกกันเกือบหมด เหลือเพียงแค่ชั้น 1 ไม่กี่ห้อง

ส่วนตอนนี้เหตุการณ์คงปกติแล้ว เพราะพี่สาวของแบงค์ก็ได้มาทำพิธีเชิญวิญญานกลับบ้านที่สระบุรีแล้ว.. และเรื่องนี้ก็ผ่านมานานประมาณ 5-6 ปีได้แล้วค่ะ.. ขอไว้อาลัยแด่ผู้ตายในเรื่อง และขอขอบคุณแฟนผู้ตายที่อนุญาติให้เอาเรื่องมาลงค่ะ

Story by คุณตุ๊กตา

ขอบคุณที่มา https://www.thehouse.online/story/
..........................................................
..........................................................
3.
เรื่อง ลองดีที่บ้านเฮี้ยน
 เป็นเรื่องเมื่อสมัยผมยังเป็นวัยรุ่นครับ ผมกับเพื่อนๆ ก็จะเป็นพวกชอบอะไร ที่ลึกลับท้าทาย เคยไปบ้านร้าง ที่เค้าว่าเฮี้ยนกันมาบ้างแล้ว แต่ก็ยังไม่เคยได้เจออะไร.. และพอดีช่วงปิดเทอมฤดูร้อน ผมกับเพื่อนๆ ในกลุ่ม 4 คน นัดกันไปเที่ยวพัทยาครับ ไม่ได้จองที่พักไปก่อน เพราะพวกผมไปกันวันธรรมดา กะไปหาที่พักเอาตอนไปถึง.. เพื่อนผมคนนึง เกิดไปได้ยิน เรื่องของบ้านเช่าราคาถูกแห่งหนึ่ง จากคนแถวนั้น เค้าบอกมาว่าที่ราคาถูก เพราะเจ้าของบ้าน ถูกฆาตกรรมในห้องน้ำ ผมกับเพื่อนๆ ก็ตื่นเต้นขึ้นมาทันที คิดว่าจะลองไปท้าทายกันดู ด้วยการไปเล่นผีถ้วยแก้วกันที่นั่นเลย เพราะคิดกันว่า น่าจะทำให้เข้าใกล้วิญญาณได้มากที่สุด เลยไปติดต่อเช่าบ้านดังกล่าว ในราคา 800 บาทต่อคืน
เมื่อพวกผมมาถึงบ้านเช่า ลักษณะเป็นบ้านเดี่ยว ชั้นเดียว ก้าวแรกที่เข้ามา บริเวณบ้านดูสวยงาม ค่อนข้างใหม่ ทุกอย่างเป็นปกติดี ห้องน้ำถูกทำความสะอาดอย่างดี จนไม่เหลือความน่ากลัวใดๆ.. เย็นวันนั้น หลังจากที่พวกผมกลับมาจาก เล่นน้ำ และทานข้าวเย็น เมื่อก้าวเข้าสู่บริเวณบ้าน เสียงประตูปิดดัง ปึ้ง..ดังมาจากด้านหลังของบ้าน พวกผมมองหน้ากัน.. ก่อนจะพากันเดินไปดูที่หลังบ้าน ซึ่งประตูห้องน้ำ เป็นบานเดียวที่ปิด.. ด้วยความที่พวกผมมากัน 4 คน ความกลัว กลับกลายเป็นความท้าทาย
คืนนั้น พวกผมนั่งล้อมวงเล่นผีถ้วยแก้วกัน ทำพิธีอัญเชิญดวงวิญญาณแถวนี้ แต่ทุกครั้งที่พวกผมเล่นผีถ้วยแก้ว ผมไม่เคยเห็นว่า แก้วมันจะขยับได้เองเลยสักครั้ง สุดท้ายก็เปลี่ยนไปเล่นไพ่กันแทน สักพักใหญ่ๆ เพื่อนคนนึงก็จะไปอาบน้ำ แต่ด้วยความกล้าๆ กลัวๆ มันก็ชวนเพื่อนอีกคนไปด้วยกัน เพราะห้องน้ำจะมีทั้งอ่าง และส่วนห้องฝักบัว พวกมันสระผมกัน ผมได้ยินเสียงมันคุยกันดังออกมา เฮ้ย มึงอย่าเล่นพิเรนสิวะ เอายาสระผมมาเทใส่หัว ตอนกูล้างผม แล้วเมื่อไหร่กูจะสระเสร็จ?’ จากนั้นพออาบเสร็จ มันก็เดินเถียงกันออกมาจากห้องน้ำ ว่ามึงนั่นแหละแกล้งกู
ทีนี้พอตาผมเข้าไปอาบน้ำ ผมก็เข้าไปกับเพื่อนอีกคนนึง ผมเปิดฝักบัวอาบน้ำ และในระหว่างที่ก้มหน้าสระผม เพื่อนผมมันอาบเสร็จก่อน ออกไปรอหน้าห้องน้ำ ส่วนผม กำลังจะล้างฟองออก แต่ล้างยังไงก็ล้างไม่หมดสักที จนผมหมดความอดทน ผมลืมตาขึ้นมา (ขณะก้มหน้าสระผม) เห็นเท้าของผมเอง แต่มีเท้าของคนอีกคน อยู่ยืนอยู่ด้านหลัง! ผมเข้าใจว่าเป็นเพื่อนผมมาแกล้ง เลยหันกลับไป สิ่งที่เห็นคือ หญิงสาวที่มีผมยาวถึงหลัง ร่างกายเปลือยล่อนจ้อน ผิวหนังซีดเปื่อย เหมือนคนแช่ในน้ำนาน ดวงตาแดงก่ำ คล้ายมีเลือดออกในตา และในมือ กำลังถือขวดแชมพู เทราดลงบนหัวของผม! เท่านั้นแหละ ผมวิ่งแก้ผ้าออกมาจากห้องน้ำทันที กระโดดเข้ามากลางวงเพื่อนที่เล่นไพ่กันอยู่
ทันใดนั้นไฟก็ดับลงเฉยๆ พวกเราได้แต่เอามือถือ เปิดแสงจากหน้าจอกัน จู่ๆ ก็ได้กลิ่นธูป และกลิ่นคาวเลือดคลุ้งไปหมด และเสียงร้องโหยหวนของผู้หญิง ดังมาจากในห้องน้ำ! เท่านั้นแหละ ผมสติดับวูบลงไปเลย.. มารู้สึกตัวอีกที โรงพยาบาล หมอบอกว่า ป้าคนให้เช่าบ้าน ไปเจอผมกับเพื่อนๆ สลบอยู่ในบ้านเช่าทั้งตัวมีแต่เลือด และในห้องน้ำก็มีแต่เลือดสดๆ เต็มพื้นไปหมด แต่พวกผมกลับไม่ได้มีบาดแผลอะไร ทั้งหมอ และพวกผมก็งงกันใหญ่.. หลังจากนั้นนี่ พวกผมก็เชื่อเรื่องผี อย่างจริงจังกันเลยครับ
Story by คุณบอล (นามสมมติ)
ขอบคุณที่มา https://www.thehouse.online/story/
...............................................
..............................................
4.
เรื่อง  ตึกนี้มีอาถรรพ์-คุณเต้
                เต้ทำงานที่สถาบันการศึกษาในจังหวัดชลบุรี มีคลาสที่ต้องสอนตอนเย็นประมาณทุ่มถึงสองทุ่ม เย็นของคืนที่สาม ให้ลูกศิษย์สอบ ทุ่มครึ่ง ยามก็มาไล่ปิดไฟทั้งตึก เต้ก็เกิดปวดฉี่ จึงขอไปเข้าห้องน้ำ ซึ่งต้องแสกนนิ้วออกจากห้อง ห้องน้ำของมหาลัยก็เป็นห้องน้ำเปิดซึ่งมองเห็นคนผ่านไปผ่านมา เต้ก็มองไปเห็นนักศึกษาผู้หญิงร่างอวบๆ ท้วมๆ ก็คิดว่าเป็นแฟนของนักศึกษาที่สอนอยู่ พอสักพักเต้มองหาอีกก็หันไปทางซ้าย ปรากฏว่าผู้หญิงคนนั้นไม่มีหัวแล้ว เต้ก็หันไปล้างมือทางซ้าย พยายามแกล้งไม่เห็น และพยายามคิดว่าไม่ใช่ เป็นการหักเหของแสง เต้เงยหน้าขึ้นมองกระจก ปรากฏว่าเห็นผู้หญิงคนนั้นในกระจก ซึ่งก็ยืนอยู่หลังเต้นั่นเอง เต้ก็สติหลุด วิ่งไปทุบประตูห้อง นักศึกษาก็ไม่ยอมเปิดเพราะคิดว่าเต้แกล้ง เพราะเต้ชอบแกล้งนักศึกษา เต้เลยเอานิ้วไปสแกนกรากฏว่าสแกนไม่ได้ please try again ตลอด จนเต้เอานิ้วออก แล้วก็ยังดังอยู่เหมือนมีคนเอานิ้วไปวาง เต้ตัดสินใจวิ่งไปนั่งอยู่หน้าห้องโสต เพราะอีกทางก็คือ ห้องน้ำ ส่วนลิฟท์ก็ไม่กล้าลง สักพักมีนักศึกษามาเปิดประตูมาถามว่าเกิดอะไรขึ้น เต้ก็เข้าไปในห้องแล้วโวยวายว่าทำไมไม่เปิดประตู รู้มั้ยว่าผมเจออะไรมา นอกจากเรื่องนี้ก็ยังมีเรื่องผีนางรำอีก .... ลองไปฟังดูนะคะ 
ขอบคุณที่มา https://pantip.com/topic/35092208/story
..........................................................................
...........................................................................
5.
เรื่อง  ไม่น่าหยิบมาเลย - คุณหมี
                เรื่องเกิดขึ้นที่ชลบุรี ปี 2538 หรือ 2539 ตอนหมียังเด็กๆ เรียนโรงเรียนวัด เย็นๆ ก็เตะบอล สนามบอลก็อยู่ใกล้เมรุ ช่วงหน้าหนาวก็มืดเร็ว หมีเล่นซ่อนหากับเพื่อน ราวๆ 6โมงเย็น เพื่อนชอบตามมาแอบกับหมี หมีรำคานเพื่อนเลยกระโดดข้ามกำแพงไปซ่อนในปล่องเมรุ ซึ่งตรงที่เค้าจะเผา เต๋อเพื่อนของหมีจะมาขอแอบด้วย หมีเลยปิดประตูปล่อง แต่ความรู้สึกคือเหมือนไม่ได้อยู่กันสองคน หมีมองเห็นเต๋อเอามือลูบพื้นที่มีเศษขี้เถ้าลากไปลากมาไปเจอคล้ายๆลูกแก้ว สีเงิน เต๋อเลยบอกว่าสวยดี แล้วเก็บใส่กระเป๋าไป ตอนนั้นหมีรู้สึกกลัวๆ เหมือนมีคนมานั่งเบียดตลอดเวลา ผ่านไปสักพักใหญ่ หมีเห็นว่าไม่ใครตามหาสักที ได้ยินเสียงด้านหลังว่า แฮ (ลมผ่านหู) มองไปทางเต๋อ เต๋อหน้าซีด แล้วพากันเปิดประตูวิ่งออกมา เต๋อไปนอนบ้านสวนกับหมีปกติ แต่ปรากฏว่าเต๋อไม่ยอมนอนแต่นั่งกอดเข่ามองหมีอยู่ตลอดเวลา ตอนเช้ามาแม่เต๋อก็มารับไป ก็ไม่ได้ติดต่อเต๋อสัก 2-3 วัน เพราะโรงเรียนปิด พอเปิดเรียน ที่โรงเรียนมีสวนผัก ปรากฏว่าเต๋อเจออะไรก็เอามาขว้างทิ้งหมด เด็ดแตงกว่ามาเขวี้ยง เด็ดพริกมากินสดๆ ในห้องเรียนก็นั่งเงียบไม่พูดไม่คุยกับใคร ชวนไปเตะบอลก็ไม่ไป พอวันต่อมา มีน้าคนหนึ่งมาถามหมีว่า เต่อมาทำอะไรดึกๆ มาเดินไปรำไป ช่วงสี่ห้าทุ่ม หมีเลยตัดสินใจไปบอกอาจารย์ให้เฝ้าติดตามพฤติกรรม เป็นแบบนี้ไปเรื่อยๆ ออกมารำตลอด แล้วมีคนเห็นเต๋อถูกคนแก่จูงมือไปไหนมาไหนตอนดึกๆ จนเต๋อไม่มาโรงเรียน แม่เต๋อมาที่บ้านหมี แต่หมีไม่อยู่ มาคุยกับตาของหมี แม่เต๋อเล่าว่า เต๋อฆ่าแมว จับแมวเขวนขอหมดเลย แล้วหายออกจากบ้านไปวันหนึ่งแล้ว แล้วที่โรงเรียน เต๋อเดินมาเนื้อตัวมอมแมม หมีเลยถามว่าทำไมไม่กลับบ้านแม่ตามหา เต๋อก็ตอบว่าบ้านกูอยู่ที่นี่ (ในเมรุ) หมีลากเต๋อกลับบ้านแต่เต๋อไม่ยอมเข้า แต่กลับเดินไปนอนที่เมรุแทน แล้วหมีก็ไปตามมัคฑายกมาลากเต๋อเข้าวัด แต่เต๋อหลุดมือไปก่อน จนตกดึก หมีเห็นเต๋อมาปีนบ้านต้นไม้ แล้วบอกว่ามาขอนอนกับหมี บอกว่ากลัว ตอน 4-5 ทุ่ม หมีนอนหันหลังให้ ได้ยินเสียงเต๋อลุกขึ้นเดินเปิดประตูออกไป แต่ไม่มีเสียงปีนบันไดลง เดินตึ้งๆ แล้วหายไปเลย หมีเลยหันไปมอง แต่เต๋อยังนอนอยู่เหมือนเดิม สักพักได้ยินเสียงเปิดประตูเข้ามา หมีแอบดู ปรากฏว่าเห็นเป็นชายแก่ เดินเข้ามาเอามือคร่อมเต๋อ แล้วส่งเสียง แฮ แฮ เหมือนตอนได้ยินในเมรุ หมีตกใจกระโดดลงจากบ้านต้นไม้ แล้วส่งเสียงดังโวยวายจนตาของหมีออกมาดู แล้วไล่เต๋อกลับบ้าน พอตอนเช้า แม่ของเต๋อมาถามหมีว่าไปเล่นอะไรกันมา แล้วหมีก็เล่าเรื่องเล่นซ่อนแอบให้ฟัง แล้วก็พากันไปบ้านเต๋อ เห็นเต๋อนอนเอามือกำอะไรสักอย่างแล้วนอนสั่นอยู่ ไปเปิดดูปรากฏว่าเป็นฟันปลอมของคนสมัยก่อน สีเงินๆ ทุกคนเลยตัดสินใจจะไปตามหลวงพ่อมาช่วย เต๋อพูดขึ้นมาไม่ต้องไปตามหรอกกูใกล้จะกินมันหมดแล้ว พอตาของหมีได้ยินรีบดึงหมีออกไปแล้วจะปิดประตู หมีหันกลับมาเห็นเต๋อ ลิ้นยาวๆ ถึงสะดือ หมีร้องไห้เสียสติ พอตามหลวงพ่อมา หลวงพ่อเคาะ 3 ที เพราะประตูเปิดไม่ได้ หลวงพ่อเลยพูดขึ้นมาว่าเขาไปแล้วล่ะ พอเปิดประตูปรากฏว่าเต๋อเสียชีวิตแล้ว โดยอ้าปากค้าง พอเต๋อตาย หมีก็บวชให้เต๋อ ตอนบวชก็เห็นคนแก่คนนั้นเดินจูงมือเต๋อเข้าไปในเมรุ พอสึกหมีไปถามตาว่าเค้าเป็นผีใช่มั้ย ตาบอกว่าแบบนี้เป็นอสูรกาย
                ส่วนที่มาของคนแก่นั้น คือก่อนหน้านั้นมีคนเล่นของเสียชีวิตแล้วเอามาเผา เพราะตอนที่มีชีวิตอยู่ชอบกินพริกสด แล้วเกลียดแมวมาก ....... เล่นอะไรระวังนะคะเด็กๆ มีลูกหลานให้บอกต่อ 
 ขอบคุณที่มา https://pantip.com/topic/35092208/story
..........................................................................
...........................................................................

 


 

ความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

เรื่องผีที่สมุทรปราการ

เรื่องผีที่ร้อยเอ็ด

เรื่องผีที่ลำปาง