เรื่องผีที่กรุงเทพฯ


1.
เรื่อง …. (ไม่มีชื่อเรื่อง)

เป็นเรื่องสมัยปี1 สถานที่ ริมถนนหน้าหอสมุดแห่งชาติ วันที่ 13 กันยา แต่จำปีไม่ได้ครับ เรื่องมีอยู่ว่าผมกับเพื่อนฝึกเต้นในงานกีฬาของมหาวิทยาลัย ในซอยข้างๆหอสมุด พอฝึกเสร็จก็เป็นเวลา สองสามทุ่มซึ่งแถวนั้นในซอยจะสว่างแต่ต้นๆซอยจนถึงปากซอยจะมืดมากมีแต่แสงไฟรถที่คอยส่องมาครับ พอพวกผมซ้อมเสร็จก็เดินออกมาแบบ วิ่งเล่นกันครับ(วิ่งกันเหมือนเด็กเล่นแหละครับเพราะรู้จักกันมาตั้งแต่ม.ปลายวิ่งกันตอนอยู่ในซอยข้างๆหอสมุดครับ ตอนนั้นมีอยู่4คน เพื่อนคนนึงก็บอก เห้ยวิ่งหนี ผม ดีกว่า แล้วเพื่อนอีกสองคนก็วิ่งตามไป ตอนแรกผมก็วิ่งตามแต่รู้สึกเหนื่อยก็เลยเดินจนพอเลี้ยวโค้งทางที่จะเดินไปป้ายรถเมล์ที่ติดถนนใหญ่ ผมก็เดินเรื่อยๆ แล้วก็เอะใจอะไรบางอย่าง เลยหันไปมองข้างในหอสมุดครับทางที่รถวิ่งข้างหน้ายาวไปถึงประตูทางเข้าหอสมุดจะมีไฟเปิดอยู่ครับ แต่ที่ผมเห็นชัดเจนมากกว่าแสงไฟคือมีเงาคนเดินอยู่ข้างในแต่ที่ถนนภายในหอสมุดนะครับ(เวลานั้นหอสมุดปิดแล้วเป็นเงาดำน่าจะสูงประมาณ สองเมตรกว่า เดินแบบโยกๆก้าวยาวมาก สายตาผมปกตินะครับ แต่ที่มองเห็นจะว่ามองย้อนแสงเห็นเป็นเงาก็ไม่น่าใช่เพราะต้นไม้ที่ผมเห็นก็ยังสีเขียวปกติพอผมเห็นซักพักเหมือนเงานั้นรู้ตัว ความรู้สึกผมเหมือนว่าเงานั้นหันหน้ามาปุ๊บ เท่านั้นแหละครับ จากที่วิ่งเล่นเหนื่อยๆ ผมสับอย่างไวจนแซงเพื่อนที่อยู่ข้างหน้าผม  ผมบอกมึงรีบมาเลยไม่ต้องถาม ระหว่างที่วิ่งก็เหมือนว่ามีเงาของหน้าคนลอยมองผมอยู่ที่ริมรั้ว (รั้วอีกครึ่งนึงข้างในค่อนข้างมืดครับ) พอวิ่งถึงป้ายรถเมล์ มีรถเมล์มาพอดีครับ ผมบอกเพื่อนเห้ยขึ้นก่อนเลยขึ้นเลยไม่รอไม่ได้ดูสายเลยครับ กะไปต่อรถข้างหน้าอย่างเดียว พอขึ้นรถมาเพื่อนก็ถามว่ามีไรผมก็เล่าบอกเห็นเงาคน เพื่อนอีกคนมันก็บอกมันก็รู้สึก มันก็เลยไม่ทักท้วงอะไรตอนที่ผมให้วิ่ง เพราะปกติส่วนมากมันจะถามจะคุยก่อนว่าเกิดอะไรขึ้นแต่เหมือนว่ารู้ว่าผมวิ่งเพราะอะไรก็เลยสับกันหมดยกกลุ่ม ไม่รอดูสายรถเมล์กันเลยทีเดียว  

ขอบคุณที่มา .... https://pantip.com/topic/32030480 (ความคิดเห็นที่ 81)
...........................................................
..........................................................




2.


เรื่อง  เขื่อนประตูผี  - คุณบอย


                 เรื่องนี้เกิดขึ้นที่หมู่บ้านแถวพุทธมณฑล  บ้านของ A (คนที่เล่าเรื่องให้คุณบอยฟัง) จะอยู่ในสวนลึก ต้องพายเรือเข้าไป หมู่บ้านของ A เป็นเหมือนหมู่บ้านร้าง ไม่ค่อยมีใครอาศัยอยู่ เป็นทางเปลี่ยว แท๊กซี่ก็จะไม่กล้าเข้าไป ตอนที่ A เรียนอยู่ เจอกู้ภัยมามุงอยู่หน้าประตูเขื่อนของหมู่บ้าน โดยตรงประตูเขื่อนจะเป็นทางน้ำหักศอก และน้ำวนแรงมาก หากพลาดมาน้ำจะดูดเรือที่พายเข้าไปหมุนแตกได้เลย A เข้าไปถามกู้ภัยว่ามีคนตายเหรอ ปรากฏว่าใช่ และเห็นกู้ภัยใช้เชือกเส้นใหญ่ๆ สองเส้นเพื่อผูกและลงไปเอาศพ เนื่องจากน้ำวนแรงมาก ตรงนี้ไม่ได้มีคนตายแค่ศพแรก แต่ตายมาหลายรายแล้ว ลักษณะเหมือนต้องการตัวตายตัวแทน วันหนึ่ง A ได้กลับมาจากเรียนปกติ แล้วก็ลงเรือที่ผูกไว้เลยประตูเขื่อนไปนิดนึง พอพายเรือผ่านสวน ได้ยินเสียงคนพายเรือมาข้างหลัง แต่ A ไม่ได้หันไปมอง A รู้สึกอุ่นใจที่มีเพื่อนร่วมทาง แต่พอเอาไม้พายพักบนเรือข้างหลังก็เงียบเหมือนกัน พอเอาไม้พาย พายเรือ เสียงข้างหลังก็พายด้วย พอใกล้ถึงบ้าน ด้วยความแปลกใจ A จึงหันกลับไปมอง ปรากฏว่าเห็นเป็นผู้หญิงผมยาวๆ นั่งเรือที่ลักษณะเหมือนโลงศพ แล้วไม่ได้มีไม้พายแต่ใช้มือจ้วงน้ำแทน ซึ่งมือใหญ่กว่าใบพาย พอใกล้จะถึงบ้าน ปรากฏว่าน้าของ A ที่อยู่ศาลาท่าน้ำก็เห็น รีบกระโดดลงมาดึงหัวเรือของ A ลากเข้าไปและเอา A ขึ้นไปบนศาลา และปล่อยเรือทิ้งไปเลย และบอก A ว่าอย่าหันไปมอง ให้รีบขึ้นไปบ้าน แล้วไปห้องพระ แล้ววิ่งไปกอดพระ แล้วน้าก็ถามว่ารู้มั้ยว่าเกิดอะไรขึ้น A ก็บอกว่าไม่รู้ และน้าก็บอกว่าไม่ต้องถามพรุ่งนี้ไปวัดกัน วันรุ่งขึ้นก็ไปหาพระ พระก็บอกว่าให้อยู่ในโบสถ์ 3 วัน แล้วเอาสายสิญจน์ล้อม ไม่งั้นไม่รอด แล้วจะให้เณรมาเฝ้าคืนละรูป จะโดนเอาชีวิต A ก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับตัวเอง พอตกกลางคืน A ก็จะได้ยินเสียงคนพายเรืออยู่ท่าน้ำวัด พอคืนสุดท้าย มีพระและเณรสองรูปมาอยู่เป็นเพื่อน แต่คืนนี้เปิดประตูหน้าโบสถ์เอาไว้ ก็ได้ยินเสียงพายเรืออีก และเสียงเรียกชื่อ A ไปด้วย สักพักก็เห็นหน้าผากคนค่อยๆ โผล่พ้นท่าน้ำ แล้วโผล่มาคอยาวๆ ยื่นออกมา แล้วก็ไม่มีลูกตา และแสยะยิ้ม ทั้งพระทั้งเณรก็รีบปิดประตูโบสถ์หมดเลยแล้วมารวมกันอยู่ในสายสิญจน์ที่เดียวกัน พระกับเณรก็สติหลุด ตะโกนช่วยด้วยๆ แล้วพอดีกับมีคนเดินมา 4 คนเป็นกรรมการหรือลูกศิษย์วัด มองไปที่ท่าน้ำเห็นเป็นผู้หญิงพายเรือหนีไปอย่างเร็ว พอหลวงพ่อเข้ามาในโบสถ์ ก็บอก A ว่า เอ็งพ้นแล้วแหละเค้าไปเอาคนอื่นแทน พอใกล้รุ่งสาง น้าของ A ก็มาที่วัด และบอกว่ามีคนตายที่หน้าประตูเขื่อน ....    


ขอบคุณที่มา https://pantip.com/topic/35092208/story


..........................................................................


...........................................................................




3.


เรื่อง  กว่าจะรู้ - คุณคิง


                เรื่องนี้เกิดขึ้นแถวย่านดอนเมือง คิงรู้จักพี่คนนึงเป็นคนทำฝ้าอยู่ที่ดอนเมือง แล้วพี่เค้าให้ช่วยหาคนทำฝ้าให้ ตกเย็นตั้งวงกินเหล้ากัน มีเพื่อนคนหนึ่งชื่อตูน ตูนเป็นคนหึงเมียมาก เห็นคิงคุยกับเมียตอนเย็น จึงเข้ามาถามคิงเชิงหาเรื่อง แต่พี่คนทำฝ้าก็บอกว่าตูนเป็นแบบนี้หึงกับทุกคน แล้วก็จะซ้อมเมียตลอด แต่ก็ไม่เลิกกัน สักสามทุ่มตูนเข้ามาอีกครั้ง บอกว่าจะไปรับน้องสาว เลยบอกวงเหล้าว่าถ้าเอี้ยง(เมียของตูน) มาให้อยู่ที่นี่เลยแล้วกัน เพราะตูนจะไปรับน้องสาวที่ปทุม แล้วตูนก็ออกไป ไม่ถึงสองนาทีเอี้ยงก็กลับจากทำงาน แล้วก็มาถามว่าตูน แต่คิงก็บอกว่าสวนไปเมื่อกี้ ไม่สวนกันเหรอ สักพักเอี้ยงบอกคิงพาไปโทรศัพท์ที่ตู้ สักพักเอี้ยงก็เต้นๆ ร้องไห้อยู่ที่โทรศัพท์ คิงเลยเข้าไปหาแล้วถาม เอี้ยงบอกว่าตูนตายแล้ว คิงเลยคิดว่าใครแกล้ง ขอคุยโทรศัพท์ ซึ่งอ้างว่าเป็นตำรวจก็ยืนยันว่าตูนตายแล้ว คิงเลยไปหาหัวหน้าตูน แล้วเล่าให้ฟังว่ามีตำรวจโทรมาว่าตูนตายแล้ว ซึ่งก็งงว่าเป็นไปได้ยังไง เพราะตูนเพิ่งออกไป แต่จุดเกิดเหตุที่บอกว่านั้นอยู่ไกลมาก คิงก็โมโหคิดว่าคนโกหกจริงๆ ก็เลยตัดสินใจพากันไปดูจริงๆ ปรากฏว่ามีรถมูลนิธิจริงๆ คิงยังไม่ให้เอี้ยงเข้าไปดู แต่พอเข้าไปปรากฏว่าเป็นตูนจริงๆ ตูนคอหักตาย แต่ตาไม่หลับ พอรู้ว่าใช่ เอี้ยงก็ร้องไห้โฮ แล้วก็รอญาติมา คิงถามว่าคนตาย ตายตอนกี่ทุ่ม เค้าบอกว่าไม่เกินสองทุ่มคึ่ง แต่ตอนที่ตูนไปหาที่วงเหล้าเป็นเวลาสามทุ่มสี่สิบห้า 


               หลังจากตูนตาย เอี้ยงก็ไม่กล้ากลับบ้านนอน พากันนอนสามสี่คน เอี้ยงนอนกอดคิงทั้งคืนเพราะกลัว แต่คิงก็รู้ว่าตูนเป็นคงหึงเมียเลยพยายามบอกว่าอย่ากอด สักพักก็พากันได้ยินเสียง "เอี้ยง กลับบ้านเราเถอะ" ประมาณห้าหกรอบ ซึ่งแม่ก็ได้ยิน 


               เรื่องนี้อาจไม่น่ากลัวเท่าไหร่ แต่ได้พิมพ์แล้วเลยต่อให้จบ ไว้มีเวลาและได้ใช้คอมพิวเตอร์ที่ถนัดพิมพ์มากกว่าจะมาอัพนะคะ ไม่หายไปไหนแน่นอน ถ้ามีธุระหรือติดงานก็จะแจ้งไว้นะคะ ยิ้ม 


  ขอบคุณที่มา https://pantip.com/topic/35092208/story


..........................................................................



...............................................

4.


เรื่อง  กระดานอาถรรพ์-คุณเบิร์ด


                เป็นเรื่องเกี่ยวกับกระดานที่แจ้งศาลาทำการสวดอภิธรรมศพ ใช้ในวัดที่มีหลายศาลา มีกระดานไว้เพื่อบอกว่า ศพนี้อยู่ศาลาไหน เรื่องนี้เกิดขึ้นที่วัดแถวๆ เทเวศน์ มีพ่อของเพื่อนตายและเอาไปเผาที่วัดนี้ เพื่อนของเบิร์ดชื่อเอก มางานศพด้วยความรีบและฝนตก แต่เอกใส่ชุดสีแดงว่า เบิร์ดจึงต่อว่าเพื่อนว่าไม่ให้เกียรติงาน เอกจึงวิ่งไปทางห้องน้ำ เห็นผ้าที่ผูกพวงหรีดสีดำๆ จึงเอามาผูกไว้ที่แขนแทนปลอกแขน  เนื่องจากฝนตกหนัก เพื่อนๆและเบิร์ดจึงพากันไปหลบฝนอยู่ที่มุมหนึ่ง เอ๊กซ์เพื่อนของเบิร์ดพูดขึ้นว่าทำไมงานศพพ่อเพื่อนมีแต่ขนมธรรมดาใส่กล่อง เอกจึงพูดขึ้นว่าถ้าเป็นงานศพกูนะจะจัดเอสแอนด์พีใส่กล่องให้เลย แล้วทุกคนก็แซวเรื่องพวงหรีดว่าศาลาอื่นมีพวงหรีดเป็น 300-400 แต่ของพ่อเพื่อนมีแต่ 30-50 สักพัก ตรงที่ทุกคนหลบฝนอยู่มีกระดานดำอยู่ แต่ไม่มีชอล์ค เพราะปกติ สัปเหร่อจะเป็นคนเขียน แต่บิ๊กเพื่อนคนหนึ่งไปหาชอล์กมาจากไหนไม่รู้ อยู่ดีดีก็มาเขียนกระดานโดยเขียนชื่อนามสกุลเอกลงไปที่ศาลา 4  แต่เขียนนามสกุลผิดไม่มีการันต์ เอกเลยเอามือมาลบออก แล้วเพื่อนก็เขียนวันมรณะ คือ 14 สิงหาคม 49 แต่เอกเปิดปฏิทินมาดู ถ้าตายวันนี้จะเผาวันจันทร์ พวกไม่มีได้มาแน่เลย เอกก็บอกว่าเผาวันอาทิตย์ เผาบ่ายสองครึ่ง ทุกคนก็หัวเราะกันใหญ่  (งานศพพ่อเพื่อน 12 กรกฏาคม)  หลังจากวันงานศพพ่อเพื่อน เอกก็โทรมาบ่นกับเบิร์ดว่าพักนี้เหนื่อยๆ และก็ฝันแปลกๆ คือฝันว่าไปวัด เห็นคนมากมาย แต่ไม่มีใครคุยด้วย เป็นแบบนี้เรื่อยๆ เอกจึงขอไปนอนกับเบิร์ด สักหกโมงเช้าเอกปลุกเบิร์ดเล่าให้ฟังว่าฝันมีคนมาฉุดจากเตียง แล้วลากไปไหนไม่รู้ เอกก็ใส่รองเท้าสีแดง ซึ่งเป็นรองเท้าสีแดงของแฟนเบิร์ดไป พอตื่นเบิร์ดก็เลยคิดว่าเอกคิดมาก แต่ก็เห็นรอยแผลที่ศอก จึงถามเอกว่าโดนอะไร เอกบอกว่าวิ่งหนีมาสะดุดล้ม รองเท้าก็ขาดเลย  พอวันคืนก่อนวันที่ 14 สิงหาคมที่เพื่อนๆเขียนวันมรณะของเอกไว้ เพื่อนๆชวนกันไปเที่ยวผับ แล้วเอกก็ดูเหนื่อยๆ จึงขอกลับไปนอนห้องแฟน ทั้งๆ ที่บอกทีแรกว่าจะไปนอนบ้านเบิร์ด พอวันต่อมาแฟนของเอกโทรมาบอกว่าเอกล้มหน้าห้องเลยตอนนี้อยู่โรงพยาบาล พระราม9 ปรากฏว่าหมอบอกว่าปอดแฟบและเลือดเป็นพิษ และไม่สามารถช่วยชีวิตไว้ไม่ได้ จนทำให้หัวใจวายตาย เอกเสียคืนวันอาทิตย์ที่ 13 สิงหาคม แต่ตอนเขียนบนกระดานคือวันที่ 14 สิงหาคม  พ่อแม่เอกอยู่ออสเตรเลียเบิร์ดติดต่อไม่ได้ จึงโทรหาป้าของเอก ป้าเลยบอกว่าป้าติดต่อพ่อแม่ได้แล้ว เดี๋ยวเราหาวัด เบิร์ดกับป้าของเอกเลยช่วยกันหาวัดซึ่งเต็มหมด พอดีมีเพื่อนป้าโทรมาว่าจองวัดให้ ปรากฏว่าเป็นวัดเดียวกับที่ไปเผาพ่อเพื่อน และได้เผาที่ศาลาที่ 4 วันที่เผาศพ เอกไปเข้าฝันเอ๊กซ์ว่า ให้เอาเงินมาคืนเบิร์ด เพราะเอกไปยืมเงินเบิร์ดมาให้เอ๊กซ์  วันต่อมาเอ๊กซ์ก็เอาเงินมาให้เบิร์ด และก็มีเพื่อนอีกคนเอากางเกงยีนส์มาคืน เบิร์ดเอาวันเกิดไปดูดวง ไปถามพระ พระบอกว่าเอกยังไม่ตาย แต่จะอยู่ด้วยความทุกข์ทรมาน เพื่อนเลยลงมติว่าเอกยังดวงไม่ถึงฆาตแต่ต้องตายก่อน 


   ขอบคุณที่มา https://pantip.com/topic/35092208/story


..........................................................................


...........................................................................

5.

เรื่อง  สยองข้างบ้าน - คุณซัน

                เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นแถวลาดกระบัง ซันนับถือ คริสต์ และไม่เคยเจอเรื่องแบบนี้มาก่อน ซันเป็นนายแบบและต้องไปถ่ายแบบที่ต่างประเทศบ่อย บ้านพ่อแม่ก็อยู่ต่างประเทศ แต่ซันจะอยู่บ้านที่อยู่ลาดกระบัง ซันจะมีเพื่อนบ้านที่สนิทกัน โดยบ้านข้างๆ มีลูกสาว 2 คน คือ ก้อย กับ กิ๊ฟ ซึ่งสนิทกับซันมาก หน้าต่างบ้านเปิดออกมาสามารถเปิดออกมาคุยกันได้ แล้วซันก็ไปถ่ายแบบต่างประเทศประมาณ 2-3 อาทิตย์  ตอนขึ้นเครื่องซันก็รู้สึกไม่ดี พอกลับจากต่างประเทศประมาณทุ่มสองทุ่ม บ้านของซันก็ไม่มีคนอยู่อยู่แล้ว แม่บ้านที่จ้างไว้ก็เลิกงานห้าโมง สักพักมีเมสเสจจากก้อยว่า กว่าจะกลับมาได้นะ รอตั้งนาน ซันเลยขึ้นไปเปิดหน้าต่างห้อง และคุยกับก้อยปกติ สักพักก้อยก็บอกว่า พี่ซันถ้าก้อยทำอะไรผิดพี่ซันจะโกรธมั้ย ซันเลยบอกว่าโกรธถ้าเป็นเรื่องใหญ่ ก้อยเลยบอกว่าอยากบอกแต่ยังไม่บอกหรอก เลยถามว่าพ่อแม่ไปไหน ก้อยเลยบอกว่าไปวัด  พอดีแฟนซันโทรมา ซันเลยลงมาคุยโทรศัพท์ ก้อยก็ปิดหน้าต่าง ปิดผ้าม่าน สักพักซันมองไปบ้านก้อยเห็นก้อยยืนอยู่บนเตียงนานมาก จึงส่งเมสเสจไปบอกว่านอนได้แล้ว พอตีห้าซันก็ได้ยินเสียงก้อยเรียก ก้อยก็บอกว่ามาปลุก พอวันต่อมาซันก็ทำงานปกติ พอเลิกงานมาก็สองทุ่มสามทุ่ม ก็เห็นก้อยยืนอยู่บนเตียงอีก แฟนซันโทรมา ซันก็บอกว่ารู้สึกไม่มีเลย ก็หลับไป พอดีแม่บ้านยังอยู่ในตอนเช้า เลยถามแม่บ้านว่า บ้านนั้นเค้าไปงานศพทุกวันเลย ไปทำไมเหรอ แม่บ้านบอกว่าลูกสาวเค้าเสีย ซันก็ตกใจ ก็เลยบอกว่าไอ้กิ๊ฟเหรอทำไมไอ้ก้อยไม่บอกผม แม่บ้านก็บอกว่าไม่ใช่ เป็นก้อยที่เสีย ซันไม่เชื่อก็รีบขึ้นไปเรียกก้อยแต่ไม่เปิด ซันจึงวิ่งไปเรียกหน้าบ้าน พ่อแม่ก้อยก็ออกมา แม่ก้อยก็บอกว่าซันก้อยเค้ารอซันนานมากนะ ซันเลยถามว่าทำไมไม่โทรหา จึงบอกว่าโทรไม่ติด ซันรีบวิ่งขึ้นไปบนห้อง ปรากฏว่าเห็นผ้าพันคอที่ซื้อให้สองผืนอยู่ที่พัดลม ซึ่งเป็นพัดลมที่ก้อยซื้อตามซันเพราะเห็นว่ามันสวยดี ซันก็ร้องไห้เลย แล้วไปหยิบโทรศัพท์ก้อยดู ปรากฏว่าปิดเครื่องอยู่ พอเปิดขึ้นมาก็มีเมสเสจของซันเข้า ซันเสียใจมาก แฟนมาอยู่เป็นเพื่อนจนค่ำๆก็กลับ ซันก็นั่งร้องไห้ต่อ ตอนสามทุ่มปรากฏว่าไฟที่ห้องก้อยติด แล้วก็มีเงาขึ้นไปยืนบนเตียงอีก จนซันนอนไม่ได้จึงไปนอนห้องแฟน พอวันเผา ซันก็เอาผ้าพันคอที่ซื้อมาล่าสุด เพราะก้อยชอบผ้าพันคอ ซันจะซื้อมาให้ก้อย และซันก็เอาใส่ในโลงก้อย แล้วบอกว่าเป็นผืนสุดท้าย พอกลางคืนอีกตอนสามทุ่ม ไฟห้องก้อยก็ติดอีก แล้วมีเงาผู้หญิงยืนบนเตียงอีก ส่วนสาเหตุการฆ่าตัวตายเป็นเรื่องความรัก    

 ขอบคุณที่มา https://pantip.com/topic/35092208/story
..........................................................................
...........................................................................




6.


เรื่อง  สยองขวัญ  - คุณพลอย


                พลอยกับแฟนหาหอพักใกล้ที่ทำงาน ไปถูกใจอยู่ที่หนึ่ง เป็นตึก 5 ชั้นไม่ลิฟท์  ถนนวังหิน-ลาดพร้าว แยกเจ็ด ที่แรกเป็นห้องโล่ง แต่ถ้าจะอยู่เจ้าของจะเอาเฟอร์นิเจอร์มาให้ พลอยเลยถามว่าทำไมไม่มีเฟอร์นิเจอร์ เจ้าของหอบอกว่าเพิ่งทาสี พอถามราคา เจ้าของบอกว่าห้องปกติ 2800 แต่กับพลอยให้พิเศษ 2200 ก็ตกลงจ่ายมัดจำ 5000 อยู่คบ 4 เดือนจะได้มัดจำคืน พลอยออกไปซื้อของแล้วกลับเข้าหอ ได้ยินเสียงโทรศัพท์ที่เคาเตอร์ด้านล่างดังๆ แต่ไม่มีใครอยู่ พอเดินขึ้นห้องก็เหมือนมีเสียงรองเท้าส้นสูงเดินตามหลัง พอคุณพลอยถึงห้องก็ไขแม่กุญแจ แต่ยังไม่ทันบิดลูกบิด แต่มันก็ดังแก๊กปลดล๊อกเอง แร้วพอเข้าห้องผ้าม่านก้อหลุดจึงไปผูก แล้วไปดูที่ระเบียงก็เห็นผู้หญิงอยู่ห้องข้างๆ ยิ้มให้ พลอยก็เข้าไปอาบน้ำแบบเปิดประตูไว้ สักพักได้ยินเสียงทีวีเปิด แต่พลอยก็เสียบปลั๊กไว้ แต่ยังไม่ต่อสายอากาศ ก็ขึ้นจอสีฟ้าๆ พลอยยังไม่คิดอะไร ก็จะไปนอน สังเกตุเตียงก็มีรอบยุบลงไปเหมือนมีคนนอนทั้งๆ ที่พลอยหรือแฟนยังไม่นอน ไม่นั่งเลย เพราะมาอยู่วันแรก สักพักพลอยก็นอนแล้วกำลังเคลิ้มหลับ เห็นเหมือนคนเดินผ่านทีวี  พลอยก็พลิกตัวมามอง ก็ไม่มีใคร สักพักหลับไปก็ฝัน ฝันว่าน้ำที่ลงมาจากพัดลมเหมือนมีน้ำหยดใส่หน้า สักพักในฝันสะดุ้งตื่น ก็เอามือลูบหน้า ปรากฏว่าเป็นเลือดพลอยก็ตกใจ แล้วเงยหน้าขึ้นเห็นเหมือนชายกระโปรงชุดนอนขาวๆ แล้วก็ขาห้อยลงมา แล้วพลอยก็สะดุ้งตื่นโทรหาแฟน แฟนก็บอกว่าไม่มีอะไร ประมาณตีสองตุ๊กตาที่ตั้งไว้ริมเตียงหล่นมาฟาดหน้า พลอยก็สะดุ้งตื่นอีก ทีนี้พลอยตกใจแล้วนอนไม่ได้ยังไงก็นอนไม่ได้ ก็เลยจะไปหาแฟน ตอนที่เดินลงมาก็มีเสียงรองเท้าส้นสูงเดินตาม พอลงมาถึงชั้นล่าง พลอยก็มองขึ้นไป เห็นผู้หญิงชะโงกหน้าลงมาดู พอออกไปจากตึกสตาร์ทมอไซด์ก็เหมือนมีคนมองอยู่จากตึก พอพลอยกับแฟนกลับมาจากทำงาน ก็กลับห้อง มาไขลูกบิดก็เป็นเหมือนเดิมคือไขแม่กุญแจ แล้วลูกบิดก็เปิดเอง ก็ทดลองให้แฟนล๊อกจากในห้อง พลอยลองเปิดปรากฏว่าเปิดไม่ได้ ก็พากันนอน กลางดึกพลอยก็กึ่งหลับกึ่งตื่นเห็นเหมือนคนใส่กระโจมอกจะไปอาบน้ำ ก็คิดว่าเป็นแฟน แฟนพลอยเป็นผู้หญิง ก็คิดว่าแฟนไปอาบน้ำ พอพลิกตัวไป ปรากฏว่าแฟนนอนอยู่ พลอยก็สะดุ้งลุกขึ้นทันที ปรากฏว่าตู้เสื้อผ้าเปิดอยู่ ปรากฏว่าหวีที่อยู่ในตู้เสื้อผ้ามีแต่ผมยาวๆ ทั้งที่ทั้งพลอยและแฟนผมสั้น วันต่อมา พลอยได้ยินเสียงเหมือนคนวิ่งๆๆ ขึ้นตึกใส่รองเท้าส้นสูง แล้วมาเดินวนไปวนมาอยู่หน้าห้อง พลอยก็คิดว่าหรือเป็นห้องข้างๆ คิดว่าจะมาขอปีนระเบียงเข้าห้อง เพราะห้องมันปีนขึ้นมา สักพักมีเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น พอรับก็มีแต่เสียงวี๊ดดดดดดจากโทรศัพท์ เป็นประมาณสองครั้ง พลอยคิดว่าคนที่เดินวนไปวนมาโทรมาจะขอเข้าห้อง พลอยตัดสินใจเปิดประตูออกไป เจอผู้หญิงใส่ชุดนักศึกษายืนหันหลัง พลอยเลยถามว่าโทษนะคะ มีอะไรหรือเปล่าคะ ผู้หญิงคนนั้นก็ไม่หันมาแต่ตอบว่าพอดีลืมกุญแจห้องแล้วก็ค้นๆกระเป๋า สักพักก็เดินขึ้นไปชั้น 5 พลอยก็กลับมานอน พอนอนไปก็ฝันว่ามีผู้หญิงใส่ชุดนอนวนไปวนมาในห้อง แล้วเอามือขยี้ๆหัวเหมือนหงุดหงิดอะไรอยู่ แล้วก็ด่าพลอยว่าเธอเป็นใครมาอยู่ห้องนี้ทำไม ฉันไม่ชอบหรอกนะคนที่มาอยู่ห้องคนอื่นๆ แล้วมาใช้ของคนอื่น พลอยก็โมโห แบบเรงมาก็แรงไป พลอยเลยด่าว่าทำไมฉันจะอยู่ไม่ได้ ค่าเช่าฉันก็จ่าย ชื่อห้องก็ชื่อฉัน ผู้หญิงคนนั้นก็บอกว่าจะลองดีใช่มั้ย แล้วยกที่นอนพับใส่พลอยแบบแรง พลอยสะดุ้งตื่นและตามเพื่อนมานอนด้วย เพื่อนพลอยเห็นยันต์อยู่หลังห้อง ซึ่งพลอยแปลกใจเพราะไม่เคยเห็น วันต่อมาแฟนพลอยนอนคนเดียว พลอยไปทำงาน สักพักแฟนโทรมาร้องไห้แล้วเล่าให้ฟังว่า มีผู้หญิงมาคลานอยู่ข้างเตียง แล้วจับมือแฟนแล้วทำหน้าตาหน้าสงสารแล้วบอกว่าช่วยด้วยๆ แล้วพลอยกับเพื่อนก็รีบกลับมาหาแฟน พอเช้าพลอยเลยไปถามป้าขายของที่ข้างหอ ป้าก็บอกว่าเคยมีนักศึกษาท้องแล้วอยู่ๆก็หายไป แล้วไม่กี่วันก็มีรถปอเต็กตึ๊งมา แล้วป้าก็ไม่รู้อีก


                พลอยก็ทำบุญให้ตลอด แล้วก็ไม่มีอะไร พอสามเดือนต่อมา ก็มีผู้หญิงเดินมา มาเขย่าขาพลอย มือเย็นๆมาก แต่บอกว่า เธอๆ เธออยากอยู่ห้องนี้ใช่มั้ย เธอช่วยฉันได้ไหม ฉันอยากอยู่ที่นี่ อย่าไล่อย่าด่าฉันเลย พลอยลืมตาขึ้นแล้วบอกว่า ไม่ให้อยู่ฉันไม่ให้อยู่ อยู่ด้วยกันไม่ได้ ก็ด่าไป พอสักพักผู้หญิงก็เดินไปที่ประตูหลังห้องแล้วบิดประตูลูกบิดหลังห้อง แต่เปิดยังไงก็เปิดไม่ได้ พลอยเลยปลุกแฟนแล้วแฟนพลอยก็บอกว่าเคยหันไปทางพลอยแต่เห็นผู้หญิงนั่งกอดเข่าอยู่หน้าประตูห้องน้ำ พลอยกับแฟนตัดสินใจจะออกจากหอ พอไปบอกเจ้าของหอบอกว่าจะไม่ให้ประกันคืน พลอยเลยบอกว่าจะปล่อยข่าวหอให้เสียหาย เจ้าของหอเลยบอกให้พลอยทนอยู่แล้วสิ้นเดือนจะให้ย้ายไปอยู่ห้องตรงข้าม มีวันหนึ่งเห็นผู้หญิงยินมองประตูหลังห้องแล้วบอกว่าอยากออกไป มันถึงเวลาของฉันแล้วพลอยโมโหมากเขวี้ยงรีโมทใส่ รีโมทก็แตก แล้วกล่องทีวีเปล่าที่อยู่หลังห้อง ฝากล่องก็ตีพึบพับๆ พลอยก็ตัดสินใจเอากล่องไปทิ้ง สักพักพลอยตัดสินใจว่าจะไม่อยู่ ยังไงก็จะออก พอวิ่งลงบันได ปรากฏว่าเหมือนมีคนมาดึงแล้วพลอยก็ล้มลง พอต่อมาก็ให้พี่ชายมารับ พลอยก็บอกเจ้าของหอว่าทำอะไรสักอย่างกับห้องนี้ เอาพระมาสวด เจ้าของหอเลยสงสัยว่าพลอยรู้ได้ยังไง สุดท้ายก็ยอมเล่าให้ฟังว่า แต่ก่อนพี่ชายเจ้าของหอที่เป็นข้าราชการครั้งผู้ใหญ่ แล้วก็คบหากับนักศึกษา พอนักศึกษาท้องก็มีปัญหากันแล้วมีรอยต่อสู้จนเธอเสียชีวิตส่วนผู้ชายพอผู้หญิงตายครบเจ็ดวัน ผู้ชายก็นอนหลับตายไปเลย


                เรื่องนี้คนเล่าเล่าเร็วมาก จขกท.ก็พิมพ์ตามไม่ทัน มีข้ามไปหลายตอน ถ้าอยากฟังแบบละเอียดไปฟังดูนะคะ เรื่องนี้นับเป็นอีกเรื่องที่สนุกและหลอนแรง  


ขอบคุณที่มา https://pantip.com/topic/35092208/story


..........................................................................


...........................................................................

7.

เรื่อง  เล่นพิเรนทร์ - คุณโน๊ต

                เรื่องเกิดขึ้นที่โรงเรียนแห่งหนึ่งย่านท่าพระ ตอนเรียนอยู่โน๊ตได้ชวนเพื่อนเล่นผีถ้วยแก้วหลังเลิกเรียน ก็หาคนทำกระดาน โดยโน๊ตเป็นคนหาข้อมูลเพื่อมาทำกระดาน โดยใช้กล่องกระดาษลังแผ่นใหญ่ๆมาทำ โดยใช้เลือดไก่สดเขียนแทนปากกา ช่วงเวลาที่เล่นกันเลือกใช้เวลาโพล้เพล้ในห้องเรียน คนที่เล่นเป็นผู้ชาย 4 คน แล้วก็มีผู้หญิงนั่งดูและจะคอยจดข้อมูล วิธีเล่นคือท่องนโมพุทธายะ กลับหลัง 3 รอบ แล้วขออันเชิญ สักพัก กระดานที่เป็นกระดาษลัง กลับขยับนิดหน่อย แทนที่จะเป็นแก้วที่ขยับ แล้วก็ถามว่าถ้าท่านมาแล้วให้ไปที่ใช่ กระดานก็ไม่ขยับ จุดที่เล่นจะมีอุปกรณ์ทำความสะอาดอยู่ได้ อยู่ดีดีไม้กวาดก็พลิกตกลงมา แล้วเพื่อนก็ให้โน๊ตเป็นคนเอื้อมมือไปหยิบขึ้น สักพักเพื่อนผู้หญิงที่นั่งดูก็ค่อยๆ ก้มลงดูกระจกที่เตรียมมาด้วย ก้มเรื่อยๆ เพื่อนก็ถามว่าเป็นอะไร เพื่อนผู้หญิงก็ลุกขึ้นเอากระเป๋าแล้วกลับบ้านเลยไม่พูดอะไร สักพักทั้ง 4 คนก็ย้ายวงมานั่งห่างจากประตูหลังห้องมานั่งใกล้ๆ ประตูหน้าห้อง แล้วเริ่มเล่นใหม่ รอบนี้แก้วขยับ เพื่อนคนหนึ่งเลยถามพิเรนทร์ว่า ถ้ามาจริงให้ถามว่าใส่กางเกงในสีอะไร แก้วก็พยายามจะพลิก ก็คิดว่าแกล้งกัน แล้วต้องกดไว้แน่นๆ ก็มีคนพูดขึ้นมาว่า เอางี้ดีกว่ามาให้เห็นเลยดีกว่า สักพักสวนเล็กๆ ข้างห้อง ที่มีต้นมะพร้าว ต้นกล้วย แล้วได้ยินยินเสียงเหมือนอะไรหล่นแล้วเด้งเข้ามาหลังห้องที่อยู่ชั้นสาม สักพักมองหลังห้อง ก็เห็นเป็นลูกมะพร้าวที่ค่อยๆ ขยับ เหมือนมีคนจับเล่น ก็พากันจ้อง เพราะแสงสลัวๆ จ้องไปจ้องมาเห็นเป็นหัวคน แล้วทั้งสี่คนก็ลุกแล้ววิ่งชนประตูพังโครม แล้วกระโดดลงไปเลยโดยไม่วิ่งลงบันได อุปกรณ์การเล่นก็ยังอยู่โดยไม่ได้เก็บ ทั้งกระดาน ธูป และกระจก วันต่อมาก็โดนทำโทษหน้าเสาธง พอตอนกินข้าวเที่ยงก็มีเพื่อนๆจ้องตลอดเวลา จนทุกคนกินข้าวไม่ลง จึงพากันขึ้นไปเล่ากันต่อบนห้อง เพื่อนผู้ชายก็บังคับให้เพื่อนผู้หญิงเล่าให้ฟังมาเห็นอะไร ผู้หญิงก็ทำท่าจะร้องไห้ แล้วเล่าว่า ที่เห็นในกระจกคือ มีมือปริศนากดแก้วอยู่ โดยขาชี้ฟ้า แล้วค่อยๆ หันมาทางเพื่อนผู้หญิง โดนเป็นผู้หญิงวัยกลางคน ใส่เสื้อม่อฮ่อมสีฟ้า ไม่มีลูกกะตา แล้วหัวห็เหมือนกระโหลก แล้วหัวเราะเหมือนเสียงตุ๊กแก พอเลิกเรียนโน๊ตกลับบ้านไป ตอนนอนก็เห็นเหมือนเงาอยู่บนเพดาน แล้วค่อยขยับตัวลงมา แล้วโน๊ตก็ตื่นอีกทีตอนเช้าเลย แล้วไปเล่ากับเพื่อนๆ เลยตัดสินใจพากันไปวัด ก่อนไปวัด ภารโรงมาถามว่าเป็นยังไงพวกเอ็ง เจอดียัง ภารโรงเลยต่อว่าว่าใครเค้าเล่นกันเวลาโพล้เพล้ ผีตากผ้าอ้อม หรือช่วงตะวันทับตา ภารโรงก็บอกว่ามันอันตราย ทุกวันนี้เค้าก็ตามอยู่ไปไหนไม่ได้ สรุปว่าภารโรงบอกว่าวิญญาณตามอยู่ตลอด เช่นตอนเที่ยงที่นั่งกินข้าวอยู่เค้าก็นั่งแย่งกินข้าวอยู่บนโต๊ะ ทำให้พวกโน๊ตกินไม่ลง พอถามว่าเป็นใคร ภารโรงบอกว่าโรงเรียนเนี้ยไม่มีผีหรอก แต่พวกเอ็งไปเรียกเค้ามา เจ้าที่เจ้าทางก็ต้องยอม พวกเอ็งไปดักทางเค้าไว้ก่อน เค้ากำลังจะไป พวกเอ็งไปเรียกเค้าก่อน ทั้งสี่คนเลยพากันไปหาหลวงตา ก่อนจะเข้าวัด หลวงตาก็ดักก่อนว่า อย่าเพิ่งเข้ามา ให้คนมาด้วยนั่งรอข้างนอก เดี๋ยวจะไม่ได้ไปเกิด แล้ววันนั้นก็ทำอะไรไม่ได้หลวงพ่อก็ให้สายสิญจน์กลับบ้านไปก่อน เช้ามหลวงพ่อก็สวดบังสุกุลให้ หลังจากวันนั้นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับคุณโน๊ตก็ยังไม่จบ มีวันหนึ่งคุณโน๊ตเลิกเรียนแล้วนั่งรอรถที่ป้ายรถเมล์ประมาณทุ่มหนึ่ง ขึ้นรถเมล์แล้วไปนั่งที่หลังรถ รถก็ขับไปเรื่อยๆ กระเป๋ารถเมล์ก็ไม่เดินมาเก็บเงิน รถก็ขับไปเรื่อยๆ แล้วคนบนรถเมล์ก็นั่งตัวแข็งๆ ไม่ขยับ โน๊ตเริ่มกลัว เหงื่อออก ตัดสินใจลงป้ายหน้า ก็มานั่งพิงเสา รถเมล์ก็ขับไป แล้วโน๊ตก็เห็นว่าตัวเองยังอยู่ที่ป้ายเดิม ซึ่งคิดว่าฝัน แต่เหตุการณ์มันชัดมาก โน๊ตก็ตัดสินใจเดินกลับไม่ขึ้นรถเมล์ อันนี้คือเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับโน๊ต  

ขอบคุณที่มา https://pantip.com/topic/35092208/story

..........................................................................

...........................................................................

8.

เรื่อง  เรื่องเล่าจากความฝัน - คุณหรั่ง

                เรืองนี้เกิดขึ้นที่ย่านหนองแขมเมื่อ 10 กว่าปีที่ผ่านมา หรั่งมีเพื่อนสองคน ทั้งสามคนจะไม่ชอบฟังเรื่องผี แต่จะชอบดูรูปผี รูปผีที่ว่านี้คือรูปของคนตายที่โกศ หรือที่เก็บศพตามวัดน่ะค่ะ ที่มีรูป แล้วเขียนวันมรณะ ชาตะด้วย พอดูก็จะพูดคุยกันเล่นว่านี่ตายตอนเด็ก ตายตอนวัยรุ่น ตายตอนแก่ ทำนองนี้ตลอด มีรูปหนึ่งเพื่อนหรั่งสมมติว่าชื่อเอ เอยืนดูรูปหน้าศพของผู้หญิงคนหนึ่ง ซึ่งสวยมาก เอเลยเอามือไปลูบแก้มในรูปของผู้หญิงคนนั้น ซึ่งเสียชีวิตเมื่อปี 2509 เอก็ไม่ยอมไปไหน แล้วพูดขึ้นว่าเนี่ยกูขอได้ดมผมทีหนึ่งก็ชื่นใจแล้ว เอเลยเอานามบัตรวางไว้ที่หน้าโกศผู้หญิงคนนั้น แล้วเอก็กลับไป คอนโดของเออยู่แถวหนองแขม เอก็นั่งเล่นอินเตอร์เน็ตไปเรื่อยๆ โดยเปิดประตูห้องทิ้งไว้ ปิดไว้แต่ประตูมุ้งลวด แล้วเอก็เผลอหลับและฝันไป ว่าเสียงโทรศัพท์ดัง แล้วลุกขึ้นไปรับในฝัน แล้วมีเสียงผู้หญิงบอกว่าพี่หนูเองจำได้มั้ย เอรู้ตัวทันทีว่าฝัน  แต่ก็บอกว่าจำได้ๆ ผู้หญิงคนนั้นก็ถามว่าขึ้นไปได้มั้ย เอเลยตอบว่าขึ้นมาสิ ขึ้นมาเลย ในฝันเอก็เข้าไปห้องน้ำ หวีผม เช็คตัวเอง แล้วเห็นเงาแว๊ํบที่มุ้งลวด ก็บอกไปว่า เข้ามาสิเข้ามาเลย แล้วผู้หญิงก็ถามอีกว่าเข้าได้เหรอ  พอเอบอกได้ ผู้หญิงก็มานั่งที่โซฟา เอก็มานั่งลงข้างๆ แล้วผู้หญิงก็ถามว่า จะเข้าไปนอนได้หรือยัง เอก็เลยบอกว่าได้ๆ เดี๋ยวพี่ไปหยิบน้ำก่อน แล้วก็จะเดินเข้าห้อง อยู่ๆ เอก็เลยบอกว่า เอาหนังสือไปอ่านด้วยดีกว่า เอก็จะไปหยิบหนังสือ แล้วผู้หญิงคนนั้นก็พูดขึ้นว่า เมิงจะเข้าไปนอนได้หรือยัง เอเริ่มกลัว สักพักเอเห็นเงาผู้ชายตัวใหญ่ที่ประตูมุ้งลวด แล้วถามว่า เมิงรู้จักเค้าเหรอ เอเริ่มกลัว แล้วข้างๆ ผู้ชายแล้วมียายแก่ๆ บอกว่า อย่าให้มันเข้าไป หมายความว่า อย่าให้ผู้หญิงคนนั้นเข้าไปในห้อง เอก็สะบัดมือออก ผู้หญิงคนนั้นผลักเอจนล้ม แล้ววิ่งเข้าไปห้อง แล้วก็สะดุ้งตื่นขึ้นมา พอความเป็นจริง เอพบว่าตัวเองนอนอยู่ในห้องนอน ทั้งๆ ที่จำได้ว่าตอนนอนอยู่โซฟาข้างนอก พอจะบิดลูกบิดประตู ปรากฏว่าอยู่ๆ ลูกบิดประตูก็ทุ้งเข้าหาเออย่างแรง เหลือแต่โซ่ที่ผูกติดอยู่ เหมือนมีคนผลัก ซึ่งตอนที่มันทุ้ง ก็ได้ยินเสียงผู้หญิงถามตลอดว่า เมิงเปิดได้หรือยัง เปิดได้หรือยัง เอตกใจกระโดดไปบนที่นอน แล้วทางขวามือ เอก็เห็นยายนั่งอยู่ที่เก้าอี้ แล้วบอกว่า อย่าเปิดนะ อย่าเปิดนะ แล้วเอก็กลัวมาก กระโดดไปกลางห้อง แล้วคลุมโปรงนอนอยู่ตรงนั้น วันหนึ่งมีป้าคนนึงที่อยู่คอนโดเดียวกัน เป็นคนชอบร้องคาราโอเกะ ซื้อทีวีมา แล้วไม่มีคนมาส่ง หรั่ง เอ และเพื่อนอีกคนหนึ่งก็อาสาไปส่งที่ชั้นหก พอขึ้นไปถึงห้อง ป้าเปิดประตู เอก็ปล่อยกล่องทีวีหล่นใส่นิ้วเท้าจนนิ้วเท้าแตก แล้วป้าก็โรกธแต่ก็สงสัย สิ่งที่เอเห็นคือรูปของผู้หญิงคนนั้น ซึ่งป้าก็บอกว่าเป็นน้องสาวของป้า พอกลับออกมาเอก็เล่าทุกอย่างให้หรั่งและเพื่อนฟัง สี่วันต่อมาเอกลับไปอยู่บ้าน เพราะกลัวมาก แล้วไม่กี่วันต่อมา แม่เอก็โทรมาบอกหรั่งว่า เอตายแล้ว เอไม่ได้เห็นศพหรั่งตอนวันงาน แต่มีคนเล่าให้ฟังว่า เอตายหน้าสงสาร ตาเหลือก มือหงิก แล้วมีรูปผู้หญิงที่เป็นรูปเดียวกับที่เจอที่ห้องป้า แล้วในปากก็มีเหรียญห้าอยู่  พอเอไปขอดูศพกับมูลนิธิก็เป็นรูปนั้นจริงๆ หลังจากนั้นเอก็ไปขอดูรูปที่ห้องป้า ป้าก็ยืนยันมายังอยู่ แต่ปรากฏว่าไม่มีจริงๆ

               ตอนนี้เหลือหรั่งแค่คนเดียว ส่วนเพื่อนอีกคนก็เสียชีวิตแล้ว โดยหรั่งก็ได้เล่าเรื่องไว้ในเรื่อง โค้งนี้ที่ชลบุรี จขกท. ยังไม่ได้ฟังค่ะ ><

                เรื่องนี้เป็นข่าวในหนังสือพิมพ์ในคอลัมภ์หนึ่งว่า ตายพิศดาร 

ขอบคุณที่มา https://pantip.com/topic/35092208/story

..........................................................................

...........................................................................


9.

เรื่อง  (ไม่ทราบชื่อเรื่อง)- คุณเก่ง

                เรื่องนี้เกิดขึ้นจากถนนเส้นเพชรเกษมลงใต้ บ้านแม่ของแฟนเก่าเก่ง ซึ่งนับถือกัน วันหนึ่งแม่ของแฟนเก่าเก่ง (ขอแทนว่าแม่) ขับรถจากชุมพรมาเพชรบุรี มาหยุดพักรถที่ประจวบ ฝนตกปรอยๆ ขับมาเรื่อยๆ ใช้ความเร็วแค่ 50-60 เวลาประมาณสองสามทุ่ม มาถึงแถวปราณบุรี ระหว่างที่แม่ขับมา มีความรู้สึกว่ามีรถคันใหญ่ขับตามอยู่ จังหวะที่รถคันหลังจะแซง ซึ่งเป็นรถขนาดใหญ่ แม่เห็นผู้หญิงเดินอยู่ริมถนน แล้วแม่ก็ตกใจเพราะรถคันที่จะแซงกำลังพุ่งเข้าใส่ แม่ก็พยายามบีบแตร พยายามคิดอย่าเดินมา อย่าเดินมา สุดท้ายรถคันนั้นก็ชนผู้หญิงคนนั้นปึ้งเต็มๆ กระเด็นมาตกหน้ารถแม่ แม่สติกระเจิง ตกใจรีบโทรหาลูกสาว ลูกสาวก็บอกแม่ใจเย็น แม่เลยเปิดประตูรถจะลงไปดู ปรากฏว่าผู้หญิงคนนั้นลุกขึ้น วิ่งๆๆ ลงไปข้างทาง แม่ก็ตกใจ สักพักตำรวจมา แม่ก็เล่าเหตุการณ์ให้ฟัง ตำรวจก็พากันส่องหาปรากฏว่าไม่พบร่องรอยอะไร แม่ก็ใจไม่ดี ขับรถต่อไป จนไปถึงช่วงหนึ่งของถนนที่มีวัดอยู่ จะเหมือนภาพลวงตาว่าวัดโผล่พ้นถนนมา รถแม่เกิดเสียกะทันหัน แม่ก็โทรบอกลูกสาวให้อามาลากรถ ฝนก็ตกไม่หยุด ฟ้าร้องตลอด สักพักมีวัยรุ่นผู้ชายสองคนเดินมาถามป้าเป็นอะไร แม่ก็บอกรถเสียแล้ววัยรุ่นสองคนนั้นก็บอกว่าจะไปตามเพือนมาช่วย แม่ก็บอกขอบคุณ สักพักก็โทรไปบอกลูกสาวว่ามีคนมาช่วย จังหวะที่ฟ้าแลบ แล้วแสงสว่างวาบ แม่เห็นวัยรุ่นสองคนนั้นเดินเข้าไปในวัดแต่ไม่ได้เดินผ่านประตู กลับเดินเข้าในเสาวัด แล้วร่างสองร่างนั้นก็นั่งห้อยขาอยู่บนกำแพงวัด ตัวดำเมี่ยม สักพักขาก็ค่อยๆยาวเลื่อยๆลงมา ตัวก็เลื้อยๆลงมาตาม แล้วพอถึงพื้นก็วิ่งๆๆๆๆ เข้ามาหาแม่ บอกยายรอแป๊บนึงนะเดี๋ยวไปตามเพื่อนมาทำรถให้ แล้วก็วิ่งหายไป แม่ก็สลบไป ใครโทรหาก็ไม่รับ จนหลายสายมาก จนคนมาถึงแม่ก็เล่าให้ฟังว่าเจอผีหลอก ก่อนไปแม่ก็จุดธูประหว่างที่จุดธูปปรากฏว่าเห็นร่างสองร่างนั้น บอกว่ายายจะรีบไปไหนเล่า ผมกำลังตามเพื่อนมาซ่อมรถให้ แม่ก็ตะโกนโวยวายเลยว่า ไม่เอาแล้ว  
ขอบคุณที่มา https://pantip.com/topic/35092208/story
..........................................................................
...........................................................................






10.


เรื่อง  เรื่องเล่าจากความฝัน - คุณหรั่ง  (Ver.2 )

หรั่งและเพื่อนอีก 2 คน เป็นคนไม่เชื่อเรื่องผี แต่ชอบดูภาพผี ภาพผีที่ว่านี่คือภาพคนตายที่อยู่ตามโกศในวัดนั่นเอง แล้วก็จะดูวันชาตะมรณะที่เขียนไว้ แล้วก็พากันวิจารณ์ประมาณว่าตายตั้งแต่อายุยังน้อยอยู่เลย ทำนองนี้

 วันหนึ่งทั้งสามก็มีโปกาสไปดูอีกครั้ง เดียร์หนึ่งในเพื่อนของหรั่งได้ยืนดูภาพๆหนึ่งอยู่นานมาก จนหรั่งและเพื่อนอีกคนสงสัย จึงเดินเข้าไปดู  ปรากฏเป็นภาพของหญิงสาวที่มีความสวยมาก ที่เสียชีวิตตอนปี 2509 ตอนเสียชีวิตเธอมีอายุแค่ 14 ปีเท่านั้น สักพักเดียร์ก็ก้มลงไปลูบรุปถ่ายของหญิงสาว แล้วพูดขึ้นมา "แค่กูขอดมผมทีนึง กูก็มีความสุขแล้ว" แล้วเดียร์ก็วางนามบัตรของตัวเองไว้ที่หน้าโกศนั่น

 หลังจากกลับไป เดียร์ก็ไปอยู่คอนโดปกติ ซึ่งคอนโดของเดียร์เมื่อเปิดประตูเข้าไปจะเป็นห้องโถงรับแขก ขวามือก็เป็นห้องนอนกับห้องน้ำ เดียร์เล่าให้ฟังว่ามีคืนหนึ่งในขณะที่เดียร์นั่งเล่นเน็ตอยู่ โดยเปิดประตูห้องที่อยู่ในห้องทิ้งไว้ แล้วสักพักก็ผลอยหลับไปด้วยความเพลีย แล้วเดียร์ก็ฝันว่ามีโทรศัพท์ดังขึ้นและเขาก็รับโทรศัพท์ "พี่นี่หนูเอง จำหนูได้ไหม" เดียร์รู้ทันทีว่าฝันอยู่ แต่ก็ตอบกลับไปว่าจำได้ แล้วผู้หญิงในสายก็บอกว่า "หนูขอขึ้นไปได้ไหม" ด้วยความที่สาวจะขึ้นมาหา แม้จะเป็นแค่ความฝัน เดียร์ก็ตอบตกลงไปทันทีว่าขึ้นมาเลย แล้วเขาก็ลุกไปจัดแจงแต่งผมในห้องน้ำ แล้วกลับมานั่งเล่นเน็ตต่อ

 สักพักเขาเห็นผู้หญิงชะโงกหน้าเข้ามาครึ่งหน้าที่ประตูที่ติดมุ้งลวด เขาเลยพูดออกไปว่า "เข้ามาสิ เข้ามาเลยน้อง" ระหว่างนั้นเขาก็ได้กลิ่นยาสระผมหอมอ่อนๆตลอดเวลา "เข้าได้นะพี่" หญิงสาวถามอีกครั้ง เดียร์ยืนยันและเมื่อหญิงสาวเข้ามาเขาก็จำได้ทันทีว่าเป็นผู้หญิงที่อยู่ในรูปในดกศนั้นที่เขาเอานามบัตรไปวางไว้

"พี่จะไปหรือยัง" หญิงสาวถาม "ไปไหนเหรอ" เดียร์งง "เข้าห้องไง" หญิงสาวหมายถึงห้องนอน เดียร์ก็เลยว่าไปสิ มีสาวมาขนาดนี้ก็เป็นธรรมดาของชายหนุ่ม แล้วเขาก็เดินนำไป ลืมว่าต้องปิดคอมก็เดินมาปิดคอมอีก เขาไม่ได้มองหญิงสาวที่ตามมาเลย แล้วเมื่อปิดคอมเสร็จก็นึกได้ว่าเอาน้ำกับหนังสือก่อน เขาจึงบอก "เดี๋ยวพี่ไปเอาหนังสือมาอ่านก่อนนะ" จังหวะที่เขากำลังเดินไป "จะไปได้หรือยัง" หญิงสาวตะโกนถามเสียงโมโห เดียร์รู้สึกกลัวขึ้นมา แล้วอยุ่ๆเขาก็หันไปเห็นชายสูงใหญ่ที่ประตูห้อง แล้วชายคนนั้นก็ถามเค้าว่า "หนุ่ม รู้จักเขาเหรอ" ยังไม่ทันได้ตอบ ก็มียายคนหนึ่งโผล่มาข้างๆผู้ชายคนนั้นแล้วพูดว่า "หนุ่ม ให้เขาออกไป อย่าให้เขาเข้ามา" จังหวะนั้นหญิงสาวได้ผลักเขาไปในห้อง เดียร์ตกใจมากรีบดันปิดประตูและรีบคล้องสายยูทันที สักพักก็สะดุ้งตื่นขึ้นมา เดียร์ตกใจมากที่ฝันแบบนั้นและเขาจะลุกไปเอานน้ำข้างนอก แต่เอะใจขึ้นมาได้ว่า เมื่อกี้นอนอยู่โซฟาห้องโถง แล้วมาอยู่ในห้องได้ยังไง

 เขาเดินไปจับลูกบิดประตูจะเปิดออก จังหวะนั้นก็มีแรงกระแทกเหมือนมีคนจะเข้ามา แล้วมีเสียงร้องถามว่า "จะเปิดได้หรือยัง เปิดได้หรือยัง ห๊ะ" เดียร์มั่นใจตอนนั้นว่าไม่ได้ฝันเขาจึงกระโดดกลับขึ้นเตียง ห้องนอนเขาเปิดม่านทิ้งไว้ มองออกไปก็ก็เห็นยายแก่ๆคนนั้นอยู่ตรงระเบียง "อย่าเปิดนะ อย่าเปิดนะ" ยายนั่นร้องบอก เดียร์กลัวมาก นอนคลุมโปง จนหลอยหลับไป

 ผ่านไปเป็นอาทิตย์เดียร์ไม่ได้เล่าอะไรให้หรั่งและเพื่อนฟัง วันหนึ่งเพื่อนมาหาที่คอนโด ตอนที่นั่งคุยกันอยู่ล๊อบบี้ มีป้าคนหนึ่งซื้อทีวีมา แต่ไม่มีใครยกขึ้นห้องให้ เดียร์กับเพื่อนก็เลยอาสา พอขึ้นไป แล้วเปิดประตูห้องป้า เดียร์ปล่อยทีวีให้ตกใส่เท้า ทุกคนตกใจมาก ป้าก็โกรธมาก แต่ก็งง เดียร์มองไปที่รุปของหญิงสาวในห้องป้า ซึ่งเป็นคนเดียวกับรุปที่โกศนั่น ป้าก็เลยบอกว่า นั่นน่ะน้องสาวป้าเอง อยากได้รุปสักใบไหม หนุ่มๆ ปฏิเสธ แล้วจัดแจงทีวีให้ป้า และขอตัวกลับไป เดียร์จึงตัดสินใจเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้เพื่อนฟัง

 หลังจากนั้นเดียร์ตัดสินใจย้ายออกจากคอนโด ระหว่างที่หาที่อยู่ใหม่ก็มีเพื่อนคนหนึ่งโทรมาบอกหรั่งว่า "เดียร์ตายแล้วนะ" ซึ่งเพื่อนๆงงกับสิ่งที่เกิดขึ้น เพราะเพิ่งเห็นเดียร์เร็วๆนี้เอง

 งานศพเดียร์หรั่งได่เจอเพื่อนของเดียร์ที่ทำงานอยู่มูลนิธิและเปนคนไปเก็บศพเดียร์เอง เล่าให้ฟังว่า เดียร์มันตายน่าสงสารมากเลยนะ แต่น่าแปลกตอนมันตายมันอมเหรียญห้าสมัยเก่าขนาดใหญ่กับรูปผู้หญิงไว้ในปาก  และรูปใบนั้นก็เป็นรุปของเธอคนนั้นนั่นเอง

 หลังจากงานศพหรั่งขอไปดูรุปในห้องป้า ป้าก็ยืนยันว่ารูปยังอยู่ แต่ก็ยอมให้เข้าไปดู พอไปดูจริงๆ รูปไม่ได้อยู่ในกรอบนั้นแล้วจริงๆ และหรั่งก็เชื่อว่าเพื่อนไม่ได้เป็นคนดึงรุปออกมาแน่นอน

                การตายของเดียร์ได้ออกหนังสือพิมพ์คอลัมภ์ตายพิศดารหรืออะไรสักอย่าง จขกท ก็หาอยู่ ยังไม่เจอ ใครเจอแปะไว้นะคะ   ขอบคุณที่มา https://pantip.com/topic/35092208/story

..........................................................................

...........................................................................

10.

เรื่อง  เรื่องเล่าจากความฝัน - คุณหรั่ง  (V.2 )

หรั่งและเพื่อนอีก 2 คน เป็นคนไม่เชื่อเรื่องผี แต่ชอบดูภาพผี ภาพผีที่ว่านี่คือภาพคนตายที่อยู่ตามโกศในวัดนั่นเอง แล้วก็จะดูวันชาตะมรณะที่เขียนไว้ แล้วก็พากันวิจารณ์ประมาณว่าตายตั้งแต่อายุยังน้อยอยู่เลย ทำนองนี้

 วันหนึ่งทั้งสามก็มีโปกาสไปดูอีกครั้ง เดียร์หนึ่งในเพื่อนของหรั่งได้ยืนดูภาพๆหนึ่งอยู่นานมาก จนหรั่งและเพื่อนอีกคนสงสัย จึงเดินเข้าไปดู  ปรากฏเป็นภาพของหญิงสาวที่มีความสวยมาก ที่เสียชีวิตตอนปี 2509 ตอนเสียชีวิตเธอมีอายุแค่ 14 ปีเท่านั้น สักพักเดียร์ก็ก้มลงไปลูบรุปถ่ายของหญิงสาว แล้วพูดขึ้นมา "แค่กูขอดมผมทีนึง กูก็มีความสุขแล้ว" แล้วเดียร์ก็วางนามบัตรของตัวเองไว้ที่หน้าโกศนั่น

 หลังจากกลับไป เดียร์ก็ไปอยู่คอนโดปกติ ซึ่งคอนโดของเดียร์เมื่อเปิดประตูเข้าไปจะเป็นห้องโถงรับแขก ขวามือก็เป็นห้องนอนกับห้องน้ำ เดียร์เล่าให้ฟังว่ามีคืนหนึ่งในขณะที่เดียร์นั่งเล่นเน็ตอยู่ โดยเปิดประตูห้องที่อยู่ในห้องทิ้งไว้ แล้วสักพักก็ผลอยหลับไปด้วยความเพลีย แล้วเดียร์ก็ฝันว่ามีโทรศัพท์ดังขึ้นและเขาก็รับโทรศัพท์ "พี่นี่หนูเอง จำหนูได้ไหม" เดียร์รู้ทันทีว่าฝันอยู่ แต่ก็ตอบกลับไปว่าจำได้ แล้วผู้หญิงในสายก็บอกว่า "หนูขอขึ้นไปได้ไหม" ด้วยความที่สาวจะขึ้นมาหา แม้จะเป็นแค่ความฝัน เดียร์ก็ตอบตกลงไปทันทีว่าขึ้นมาเลย แล้วเขาก็ลุกไปจัดแจงแต่งผมในห้องน้ำ แล้วกลับมานั่งเล่นเน็ตต่อ

 สักพักเขาเห็นผู้หญิงชะโงกหน้าเข้ามาครึ่งหน้าที่ประตูที่ติดมุ้งลวด เขาเลยพูดออกไปว่า "เข้ามาสิ เข้ามาเลยน้อง" ระหว่างนั้นเขาก็ได้กลิ่นยาสระผมหอมอ่อนๆตลอดเวลา "เข้าได้นะพี่" หญิงสาวถามอีกครั้ง เดียร์ยืนยันและเมื่อหญิงสาวเข้ามาเขาก็จำได้ทันทีว่าเป็นผู้หญิงที่อยู่ในรูปในดกศนั้นที่เขาเอานามบัตรไปวางไว้

"พี่จะไปหรือยัง" หญิงสาวถาม "ไปไหนเหรอ" เดียร์งง "เข้าห้องไง" หญิงสาวหมายถึงห้องนอน เดียร์ก็เลยว่าไปสิ มีสาวมาขนาดนี้ก็เป็นธรรมดาของชายหนุ่ม แล้วเขาก็เดินนำไป ลืมว่าต้องปิดคอมก็เดินมาปิดคอมอีก เขาไม่ได้มองหญิงสาวที่ตามมาเลย แล้วเมื่อปิดคอมเสร็จก็นึกได้ว่าเอาน้ำกับหนังสือก่อน เขาจึงบอก "เดี๋ยวพี่ไปเอาหนังสือมาอ่านก่อนนะ" จังหวะที่เขากำลังเดินไป "จะไปได้หรือยัง" หญิงสาวตะโกนถามเสียงโมโห เดียร์รู้สึกกลัวขึ้นมา แล้วอยุ่ๆเขาก็หันไปเห็นชายสูงใหญ่ที่ประตูห้อง แล้วชายคนนั้นก็ถามเค้าว่า "หนุ่ม รู้จักเขาเหรอ" ยังไม่ทันได้ตอบ ก็มียายคนหนึ่งโผล่มาข้างๆผู้ชายคนนั้นแล้วพูดว่า "หนุ่ม ให้เขาออกไป อย่าให้เขาเข้ามา" จังหวะนั้นหญิงสาวได้ผลักเขาไปในห้อง เดียร์ตกใจมากรีบดันปิดประตูและรีบคล้องสายยูทันที สักพักก็สะดุ้งตื่นขึ้นมา เดียร์ตกใจมากที่ฝันแบบนั้นและเขาจะลุกไปเอานน้ำข้างนอก แต่เอะใจขึ้นมาได้ว่า เมื่อกี้นอนอยู่โซฟาห้องโถง แล้วมาอยู่ในห้องได้ยังไง

 เขาเดินไปจับลูกบิดประตูจะเปิดออก จังหวะนั้นก็มีแรงกระแทกเหมือนมีคนจะเข้ามา แล้วมีเสียงร้องถามว่า "จะเปิดได้หรือยัง เปิดได้หรือยัง ห๊ะ" เดียร์มั่นใจตอนนั้นว่าไม่ได้ฝันเขาจึงกระโดดกลับขึ้นเตียง ห้องนอนเขาเปิดม่านทิ้งไว้ มองออกไปก็ก็เห็นยายแก่ๆคนนั้นอยู่ตรงระเบียง "อย่าเปิดนะ อย่าเปิดนะ" ยายนั่นร้องบอก เดียร์กลัวมาก นอนคลุมโปง จนหลอยหลับไป

 ผ่านไปเป็นอาทิตย์เดียร์ไม่ได้เล่าอะไรให้หรั่งและเพื่อนฟัง วันหนึ่งเพื่อนมาหาที่คอนโด ตอนที่นั่งคุยกันอยู่ล๊อบบี้ มีป้าคนหนึ่งซื้อทีวีมา แต่ไม่มีใครยกขึ้นห้องให้ เดียร์กับเพื่อนก็เลยอาสา พอขึ้นไป แล้วเปิดประตูห้องป้า เดียร์ปล่อยทีวีให้ตกใส่เท้า ทุกคนตกใจมาก ป้าก็โกรธมาก แต่ก็งง เดียร์มองไปที่รุปของหญิงสาวในห้องป้า ซึ่งเป็นคนเดียวกับรุปที่โกศนั่น ป้าก็เลยบอกว่า นั่นน่ะน้องสาวป้าเอง อยากได้รุปสักใบไหม หนุ่มๆ ปฏิเสธ แล้วจัดแจงทีวีให้ป้า และขอตัวกลับไป เดียร์จึงตัดสินใจเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้เพื่อนฟัง

 หลังจากนั้นเดียร์ตัดสินใจย้ายออกจากคอนโด ระหว่างที่หาที่อยู่ใหม่ก็มีเพื่อนคนหนึ่งโทรมาบอกหรั่งว่า "เดียร์ตายแล้วนะ" ซึ่งเพื่อนๆงงกับสิ่งที่เกิดขึ้น เพราะเพิ่งเห็นเดียร์เร็วๆนี้เอง

 งานศพเดียร์หรั่งได่เจอเพื่อนของเดียร์ที่ทำงานอยู่มูลนิธิและเปนคนไปเก็บศพเดียร์เอง เล่าให้ฟังว่า เดียร์มันตายน่าสงสารมากเลยนะ แต่น่าแปลกตอนมันตายมันอมเหรียญห้าสมัยเก่าขนาดใหญ่กับรูปผู้หญิงไว้ในปาก  และรูปใบนั้นก็เป็นรุปของเธอคนนั้นนั่นเอง

 หลังจากงานศพหรั่งขอไปดูรุปในห้องป้า ป้าก็ยืนยันว่ารูปยังอยู่ แต่ก็ยอมให้เข้าไปดู พอไปดูจริงๆ รูปไม่ได้อยู่ในกรอบนั้นแล้วจริงๆ และหรั่งก็เชื่อว่าเพื่อนไม่ได้เป็นคนดึงรุปออกมาแน่นอน

                การตายของเดียร์ได้ออกหนังสือพิมพ์คอลัมภ์ตายพิศดารหรืออะไรสักอย่าง จขกท ก็หาอยู่ ยังไม่เจอ ใครเจอแปะไว้นะคะ   ขอบคุณที่มา https://pantip.com/topic/35092208/story

..........................................................................

...........................................................................




11.

เรื่อง  เรื่องหลอน ของลิฟต์แดง

เรื่องหลอนสุดสยองของลิฟต์แดงจากมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง มีเรื่องเล่าว่าในช่วงเหตุการณ์ 14 ตุลาฯ แห่งความขัดแย้งทางการเมือง นักศึกษาพากันหลบหนีเข้าไปในลิฟต์ตัวหนึ่ง และเมื่อประตูลิฟต์เปิดออก ทหารได้กระหน่ำยิงจนเลือดสาดอาบไปทั่วทั้งลิฟต์ นักศึกษาทั้งหมดเสียชีวิต ต่อมา ทางมหาวิทยาลัยได้ทำการล้างทำความสะอาดลิฟต์ตัวนั้น แต่ไม่ว่าจะล้างยังไง ลิฟต์ตัวนี้ก็จะยังคงมีคราบเลือดเลอะเปรอะเปื้อนหลงเหลืออยู่ มหาวิทยาลัยหาทางออกด้วยการทาลิฟต์ตัวนี้ให้เป็นสีแดง จนกระทั่ง

หลังจากที่ลิฟต์ตัวนี้ถูกนำกลับมาใช้งานตามปกติ ทั้งนักศึกษาและอาจารย์ต่างก็พบเจอเหตุการณ์น่าขนลุกต่างๆ เช่น มีนักศึกษาคนหนึ่งขึ้นลิฟต์ตามลำพัง แต่เมื่อมองไปที่กระจก เขากลับเห็นว่ามีคนอื่นยืนอยู่ในลิฟต์ด้วย หรือมีนักศึกษาเดินเข้าลิฟต์พร้อมกับรอยเลือดไหลเป็นทาง แม้ว่าลิฟต์ตัวนี้จะถูกถอดออกไปแล้ว แต่เรื่องราวของลิฟต์แดงก็ยังคงถูกเล่าขานกันต่อไป และปัจจุบัน ทางมหาวิทยาลัยยังคงเก็บ ลิฟต์แดงตัวนี้เอาไว้อยู่ โดยนำไปตั้งที่ชั้น 6 คณะศิลปศาสตร์ ราวกับว่าเป็นอนุสรณ์สถานเพื่อระลึกถึงการจากไปของเหล่านักศึกษาผู้บริสุทธิ์ไว้นะคะ
ขอบคุณที่มา https://daily.rabbit.co.th/

..........................................................................

...........................................................................



12.

เรื่อง  ลานประหารลานทรงพล

ลานทรงพลบริเวณคณะอักษรศาสตร์ ของมหาวิทยาลัยที่ตั้งอยู่ในบริเวณเขตพระราชฐานพระราชวังสนามจันทร์ เดิมที ก่อนที่ที่นี่จะเต็มไปด้วยแมกไม้ร่มรื่นดังปัจจุบัน ที่แห่งนี้เคยใช้เป็นลานประหารนักโทษ ซึ่งวิธีการประหารที่ใช้กันมากที่สุดในยุคนั้นคือ การประหารด้วยการตัดคอให้ขาดในดาบเดียว ด้วยเหตุนี้จึงมีเรื่องที่เล่าต่อๆ กันมาอยู่มากมาย บ้างก็ว่ามีนักศึกษาเห็นเงาคนสูงใหญ่กำลังฟันคอคนที่นั่งอยู่บนพื้นจนขาดกระเด็น บ้างก็ว่าเห็นผู้หญิงนุ่งโจงห่มสไบมายืนอยู่บริเวณนี้ยามค่ำคืน
ขอบคุณที่มา
https://daily.rabbit.co.th/

..........................................................................

...........................................................................
13.
เรื่อง  คุณครูนาฏศิลป์
เรื่องหลอนของโรงเรียนรัฐบาลชื่อดังแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ ที่นี่เคยมีครูสอนนาฏศิลป์ที่เคร่งครัด เข้มงวด และมีระเบียบสุดๆ แถมยังเป็นครูที่มีชื่อเสียงโดดเด่นในเรื่องการรำเป็นอย่างมาก วันหนึ่ง ครูป่วยหนักจนต้องเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาล แต่ด้วยความรับผิดชอบและความรักในอาชีพอย่างแรงกล้า ทำให้คุณครูหนีออกจากโรงพยาบาลเพื่อมาฝึกซ้อมให้เด็กๆ ในการแข่งขันรำไทย แต่แล้วเรื่องน่าเศร้าก็เกิดขึ้น เมื่ออาการของคุณครูทรุดลง ทำให้ต้องกลับไปเอายาที่ลืมไว้ในห้องนาฏศิลป์ หลังจากนั้นไม่มีใครล่วงรู้ได้ว่าเกิดอะไรขึ้น เช้าวันต่อมาจึงมีคนมาพบศพคุณครูอยู่ภายในห้องนั้น นับจากนั้นเป็นต้นมา ทุกครั้งที่มีคนพยายามจะเข้ามาในห้องก็จะมีเสียงดนตรีไทยดังขึ้น และยังมีคนมารำอยู่ในห้องนั้นทุกวันอีกด้วย
ขอบคุณที่มา
https://daily.rabbit.co.th/
..........................................................................
...........................................................................




ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

เรื่องผีที่สมุทรปราการ

เรื่องผีที่ร้อยเอ็ด

เรื่องผีที่ลำปาง