เรื่องผีที่ภูเก็ต


1.

เรื่อง  สิ่งที่เหลือไว้จากสึนามิ

คือเมื่อประมาณ 7 ปีก่อน ผึ้งไปสัมนาที่ภูเก็ต 4 วัน ไปกับหัวหน้า และภรรยาหัวหน้า โดยพักที่โรงแรมแถวหาดป่าตอง ซึ่งก็ดูสวย และใหม่ดี เราแบ่งกันเป็น 2 ห้อง โดยผึ้งนอนคนเดียว.. เช้าวันที่ 2 ตอนทานอาหารเช้ากัน หัวหน้ามาเล่าให้ฟัง ว่าเมื่อคืนเค้าฝันว่า ผึ้งเดินร้องไห้ไปเคาะห้องเค้า กับภรรยา บอกว่าขอนอนด้วย โดยที่มีฝรั่ง 2 คนตามมาด้วย.. ผึ้งฟังแล้วตลกดี แต่ไม่ได้คิดอะไร เพราะก็นอนหลับสบายดี ไม่มีอะไร.. จริงๆ ผึ้งเป็นคริสเตียน และไม่เชื่อเรื่องผี เรื่องวิญญาณเท่าไหร่

ทางเดินออกจากห้องผึ้ง จะเป็นทางเดินยาวๆ และทุกครั้งที่เดินออกจากห้อง ผึ้งจะเดินสวนกับเด็กฝรั่งคนนึง อายุประมาณ 13-14 ปี ผมแดง ตาสีฟ้า หน้าตาใสๆ หล่อเชียว ใส่เสื้อกับ กางเกงสีดำ ดูอายๆ เดินเอาตัวเบียดทางเดินตลอดเลย.. ผึ้งก็เริ่มคิดว่า เจอเด็กคนนี้บ่อยไปรึเปล่านะ ทำไมต้องเดินสวนตรงทางเดินทุกที และทำไมเค้าไม่เคยเปลี่ยนเสื้อเลย ตอนแรกก็คิดว่าคงเป็นลูกของฝรั่งสักคน ที่เค้ามาสัมนากับเรา เพราะถ้าใช่ ก็เป็นไปได้ ที่เราจะเจอกันบ่อย เพราะเราต้องกินข้าวพร้อมกัน ขึ้นรถคันเดียวกัน จนกระทั่งวันที่ 4  ผึ้งลงมาที่ล็อบบี้ ขาลงมาก็สวนกันอีกแล้ว พอขึ้นไปเอาของที่ห้อง แล้วเดินลงมาใหม่ ก็เจออีก.. มันบ่อยไปแล้วมั้ง ผึ้งเลยเริ่มเช็คฝรั่งในกรุ๊ปสัมนา ว่ามีใครเอาลูกมา และกี่คน เดินดูหน้าทีละคน ก็ไม่เจอเด็กคนนี้เลย ถามคนที่อยู่ห้องโซนเดียวกัน ก็ไม่มีใครเคยเห็น..

ผึ้งอยู่ห้องเดิมหลายวัน ก็จะมีแม่บ้านมาทำห้องให้ทุกวัน โดยเค้าจะมาช่วงสายๆ ตอนที่แขกไม่อยู่ห้อง.. ช่วงบ่ายๆ ผึ้งกลับมา ห้องก็เรียบร้อย และห้องพักผึ้งติดสระว่ายน้ำค่ะ คือลงสระจากระเบียงหน้าห้องได้เลย บ่ายๆ กลับมาถึง ผึ้งก้อเปลี่ยนชุดว่ายน้ำ เล่นน้ำเกือบทุกวัน ผ้าเช็ดตัวก็ใช้แล้ววางเกลื่อน นอกห้องมั่ง ในห้องมั่ง พาดเก้าอี้ ตามประสาคนไม่เรียบร้อยค่ะ แต่พอตอนเย็นออกไปกินข้าว กลับมาผ้าเช็ดตัวจะพับขอบ พาดไว้อย่างดีทุกครั้งเลย เนี๊ยบมากๆ ทั้ง 4 ผืน  ผึ้งก็งงว่า ทำไมเค้าเข้ามาทำห้อง วันนึงหลายรอบจัง เลยไปถามทางโรงแรม พนักงานบอกว่า แม่บ้านทำแค่ครั้งเดียว คือช่วงสาย..  ชักไม่ดีซะแล้ว ถึงขนาดที่ว่าผึ้งเพิ่งอาบนำเสร็จ ผ้าเช็ดตัวพาดกับเก้าอี้ เดินออกไปห้องหัวหน้าแป๊ปเดียว กลับมา ผ้ามันกลับถูกแขวนไว้ อย่างสวยงามในห้องน้ำอีกแล้ว! ผึ้งค่อนข้างแน่ใจละว่าคืออะไร.. ผึ้งกลัวมากตอนนั้น เลยไปห้องหัวหน้า เล่าให้ภรรยาหัวหน้าฟัง ภรรยาหัวหน้าก็กลัว เลยให้ผึ้งนั่งอยู่ห้องเค้า.. พอหัวหน้าผึ้งกลับมา ผึ้งก็เล่าให้เค้าฟัง และบอกให้ช่วยไปดูห้องผึ้งหน่อย ผึ้งว่ามันแปลกๆ

หัวหน้าเค้าก็เข้าไป ดูรวมๆ ก็ไม่มีอะไร พอจะเดินออกแล้ว หันไปทางห้องน้ำ สิ่งที่เห็นคือ เด็กผู้ชายฝรั่ง เสื้อดำ ผมแดง กำลังยืนจับผ้าเช็ดตัวอยู่ในห้องน้ำผึ้ง และเด็กคนนั้นก็หันมามองหัวหน้า สบตากัน ก่อนที่หัวหน้าจะวิ่งกลับมาที่ห้อง เค้าบอกว่า ตอนวิ่งก็หันหลังกลับไปดู เด็กคนนั้นก็เดินตามมาด้วย.. สุดท้ายเรา 3 คนเลยไปหาผู้จัดการโรงแรม เพื่อขอดู CCTV ภาพที่เห็นคือ หัวหน้าวิ่ง หันหลังมา แล้ววิ่งต่อ แต่ไม่มีเด็กคนนั้น ผึ้งขอย้อนกลับไป จนถึงช่วงบ่ายๆ ที่ผึ้งเจอเด็กคนนั้นที่ทางเดิน แต่กลับเห็นแค่ผึ้ง เดินผ่านทางเดินคนเดียวทุกครั้ง ไม่เคยเดินสวนกับเด็กคนนี้เลย..

 

คืนสุดท้าย ผึ้งยังคงนอนห้องเดิม ก็เกรงใจหัวหน้าด้วย เพราะเค้ามากับภรรยา ถึงเค้าจะบอกให้เราไปนอนได้ก็ตาม ผึ้งก็ไม่กล้าไปค่ะ สุดท้ายก็พยายามนอนต่อไป แต่มันจะอึดอัดมาก แค่ไปแปรงฟัน กลับเข้ามา ผ้าก็ถูกย้ายอีกแล้ว.. เครียดจนร้องไห้ สุดท้ายคืนนั้น ก็เดินร้องไห้ไปขอนอนห้องหัวหน้า.. จริงๆ ลืมเรื่องที่เค้าฝันคืนแรกไปแล้ว และหัวหน้ามาบอกก่อนขึ้นเครื่องกลับมา ว่าผึ้งใส่เสื้อกับกางเกง เหมือนที่เค้าฝันคืนแรกเป๊ะเลย

พอกลับมาถึงกรุงเทพฯ ผึ้งก็ได้หาข้อมูลของโรงแรมนี้ในอินเตอร์เน็ต พบว่า โรงแรมนี้เคยมีแขกชาวต่างชาติ เสียชีวิตหลายคน จากเหตุการณ์สึนามิเมื่อวันที่ 26 ธันวาคม ปี 2547.. ผึ้งก็ได้แต่ขนลุกเพราะเป็นครั้งแรก ที่เคยเจอเรื่องแบบนี้ในชีวิตค่ะ

~ RIP แด่ผู้เสียชีวิตทั้งหมด ในเหตุการณ์ สึนามิ ที่ภาคใต้ ~

Story by คุณผึ้ง
ขอบคุณที่มา https://www.thehouse.online/story/
.............................................................
.............................................................



2.

เรื่อง  พริตตี้เจอผี

หมี่เกี๊ยวเคยรับงานพริตตี้ และต้องมีออกเดินทางไปทำงานต่างจังหวัด เพื่อเป็นการประหยัดค่าโรงแรม ออแกไนเซอร์ส่วนมากจะใช้วิธีเดินทางหัวค่ำไปหลับในรถเอา ถึงเช้าอาบน้ำแต่งหน้าแต่งตัวก็เริ่มงานได้เลย ขากลับก็เช่นเดียวกัน เข้าโรงแรมแพ็คของ ขึ้นมาหลับบนรถ ถึงกรุงเทพเช้าพอดี..

ครั้งที่เกิดเรื่อง ตอนนั้นเดินทางกลับจากภูเก็ตด้วยรถตู้ เรานั่งหลังคนขับและแง้มม่านไว้.. เวลาประมาณตี 3 กว่า ทุกคนกำลังหลับสนิท จู่ๆ รถก็หยุดกระทันหัน ทุกคนตกใจตื่นกันหมด แต่คนขับรถออกรถอย่างเร็ว บางคนตะโกนถามว่าเกิดอะไรขึ้น แต่แกไม่ยอมตอบ และเหยียบเร็วมาก ประมาณ 150 ได้ หลังจากนั้นทุกคนในรถก็กรี๊ดกันสนั่นแล้วชี้มาทางหน้าต่างข้างที่เราเปิดม่านทิ้งไว้ น้องพริตตี้บางคนกอดกันร้องไห้แบบเสียสติ เราก็หันไปมองนะ แต่ไม่เห็นอะไรเลยจริงๆ

พี่คนขับรถขับมาจนเกือบสว่าง รีบเลี้ยวเข้าวัดเลย ทุกคนลงไปไหว้พระรดน้ำมนต์กันใหญ่ เราก็ตามลงไปแบบงงๆ ถามใครก็ไม่มีใครตอบ

หลายเดือนต่อมาได้มีโอกาสวนมาทำงานกับน้องพริตตี้ 1 ในทริปภูเก็ตครั้งนั้น เลยถามว่าเห็นอะไรกัน..

น้องเล่าว่า หลังจากที่รถเบรคหัวทิ่มก็เลยสะดุ้งตื่น แต่พอพี่คนขับกระชากออกรถอย่างเร็ว สัญชาตญาณมันทำให้ต้องมองออกไปข้างนอกว่าเกิดอะไรขึ้น.. ที่น้องเห็นคือ ชายแก่สวมเสื้อผ้ามอมแมมสกปรกวิ่งอยู่ข้างรถ วิ่งแบบไม่เหนื่อย และใช้มือข้างหนึ่งทาบกระจกตรงที่เราเปิดม่านไว้.. เราก็บอกน้องไปว่า แค่คนบ้าวิ่งตามรถเฉยๆ มั้ง แต่น้องมันกลับน้ำตาคลอเบ้า และบอกว่า พี่.. รถมันวิ่งเกือบ 160 เลยนะ ลืมไปแล้วหรอ..

น้องเล่าต่อว่า วัดที่เราแวะไป มีพระท่านหนึ่งบอกว่า ถนนเส้นนั้นมีคนเก็บขยะถูกรถชนตายตอนตี 3 เมื่อ 2 อาทิตย์ก่อนนั้นนี่เอง.. เราได้ฟังเรื่องทั้งหมดก็ตกใจ และขนนี่ลุกไปหมดทั้งตัวเลย

Story by คุณหมี่เกี๊ยว

 ขอบคุณที่มา https://www.thehouse.online/story/

..........................................................................

...........................................................................

3.
เรื่อง  519 ที่ภูเก็ต - คุณเอฺ็ม
                เห็นผู้อ่านแนะนำมาเลยลองฟังดูสักหน่อยค่ะ ที่หายไปนาน คือ จขกท ติดธุระ และไม่สบายมาจนถึงตอนนี้เลยค่ะ TT มาเริ่มเรื่องกันดีกว่าค่ะ ช่วง 6-7 ปีที่แล้ว เอ็มไปเที่ยวภูเก็ตตอนพักร้อน 2-3 วัน ได้เปิดห้องที่โรงแรมแห่งหนึ่ง โดยเปิดสองห้อง เพราะไปสี่คน คือแอ้เพื่อนผู้ชายและแฟนนอนห้อง 519 ส่วนเอ็มและแฟนนอนห้อง 518 ตอนกลางวันก็ไปเที่ยวทะเลอะไรกันปกติ พอตอนเย็นแอ้บอกปวดหัวและไม่ไปเที่ยวกับเพื่อนจะฝากกุญแจที่ฟ้อนต์เพราะกลัวไม่ลุกมาเปิดให้แฟนเพราะจะกินยาแก้ปวดหัว ขอนอนอยู่ห้อง ตีสองแอ้โทรหาเอ็ม แล้วบอกเอ็มว่าอย่าแกล้งนะ มาเคาะประตูใช่มั้ย เอ็มก็บอกไม่ เพราะตอนนี้ทั้งสามคนอยู่ผับ ก็เลยวางสายไป พอทุกคนกลับมาจากผับ ปรากฏว่าเห็นแอ้นอนสลบอยู่กับเพื่อนๆ เพื่อนก็ตกใจรีบพาไปโรงพยาบาล แล้วพอแอ้ฟื้นก็ร้องไห้แล้วเล่าให้เพื่อนๆฟังว่า อาบน้ำอยู่มีคนมาเคาะประตู ก็ไปเปิดปรากฏว่าไม่มีใคร และห้องที่แอ้อยู่ก็เป็นห้องริมสุดแล้ว มองซ้ายก็ติดกำแพงแล้ว เคาะครั้งแรก เคาะ ป๊อก ป๊อก ป๊อก 3 ครั้ง แล้วพอใส่กางเกงนอนนั้งอยู่บนเตียงก็ได้ยินเสียงเคาะอีกสามครั้ง ป๊อก ป๊อก ป๊อก ก็ไปเปิดดู ปรากฏว่าไม่มีใคร ก็คิดว่าเพื่อนแกล้ง พอครั้งที่สามเคาะอีก ป๊อก ป๊อก ป๊อก เลยโทรไปหาเอ็ม ว่ามาแกล้งเหรอ พอสักพักก็เคาะ ป๊อก ป๊อก ป๊อก อีก แอ้โมโหเลยกด 0 โทรไปที่รีเซฟชั่น ให้คนขึ้นมาดู พนักงานก็บอกว่าไม่มีใคร พอสักพักก็มาเคาะอีก แอ้โมโหมากเลยเลยถอดเอาโคมไฟหัวเตียง แล้วเอากรอบของโคมไฟ แล้วเข็นเก้าอี้ล้อที่โต๊ะเครื่องแป้งมาที่ประตู แล้วขึ้นยืนบนเก้าอี้ แล้วเอื้อมมือไปปิดพัดลมดูดอากาศด้านบนประตู เพื่อส่องออกไปดูด้านนนอก แล้วได้กลิ่นสาปๆ เหมือนคนไม่อาบน้ำกลิ่นแรงมาก แอ้พยายามส่องดู พอมองไปด้านขวา แอ้เห็นผู้หญิงใส่ชุดสีดำ ผมยาวๆ กำลังคลานมาเรื่อยๆ มาทางห้องแอ้ โดยผมยาวลากพื้นไม่ได้เงยหน้า เล็บก็เกาพรมแกรก แกรก แกรก  แอ้เกือบหยุดหายใจ เมื่อผู้หญิงคนนั้นก็หยุดหน้าห้องแอ้ แล้วเคาะ ป๊อก ป๊อก ป๊อก แล้วคลายต่อไปทางห้อง 518 และ 517 และคลานกลับมา มาหยุดตรงหน้าห้องแอ้ แล้วเงยหน้าขึ้นมามองแอ้ที่แอบดูอยู่ทางช่องพัดลม หน้าของผู้หญิงคนนั้น ไม่มีคาง ลิ้นยาวถึงคอ แล้วเลือดเต็มหน้า แล้วแอ้ก็สลบไป จนมาฟื้นหน้าโรงพยาบาล พอพากันไปถามพนักงานก็บอกไม่รู้ ไปถามคนสวน ปรากฏว่าคนสวนเดินหนี ทีนี้เอ็มกับเพื่อนๆ ก็พาไปกินข้าวเช้า เจอเจ้าของร้านอาหาร เลยเล่าให้ฟังว่า พี่ผู้ชายคนหนึ่งชอบพานักร้องมาที่ห้อง มาบ่อยๆ แล้วก็มีปากเสียงกัน พอผู้หญิงคนนั้นนอนหลับ ผู้ชายก็ไปเอาขวานที่อยู่ที่ตู้ดับเพลิง แล้วเอามาจามที่หน้าของผู้หญิงคนนั้น จนเสียชีวิต
              เรื่องนี้หลอนกับการคิดภาพตาม แง๊งๆๆๆ    
ขอบคุณที่มา https://pantip.com/topic/35092208/story
..........................................................................
...........................................................................

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

เรื่องผีที่สมุทรปราการ

เรื่องผีที่ร้อยเอ็ด

เรื่องผีที่ลำปาง